มัลแวร์เรียกค่าไถ่คอมพิวเตอร์ในหลายประเทศอีกครั้ง

28 มิถุนายน 2560, 11:29น.


บริษัทและองค์กรจากหลายประเทศทั่วโลก แจ้งว่าคอมพิวเตอร์ของตนถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ตัวใหม่ ที่จะเข้าล็อกไฟล์ช้อมูลด้วยรหัสลับ และทำให้ระบบคอมพิวเตอร์หยุดทำงาน โดยคนร้ายจะเรียกเงินค่าไถ่ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในรูปของเงินบิตคอยน์ แลกกับการปลดล็อก ซึ่งแคสเปอร์สกี แล็บ บริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์แอนติไวรัส จากรัสเซีย เปิดเผยว่า พบการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ตัวใหม่นี้ถึง 2,000 ครั้งในหลายประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในยูเครน รัสเซีย และโปแลนด์ อย่างไรก็ตาม แคสเปอร์สกี แล็บ เรียกมัลแวร์ตัวนี้ ว่า NotPetya เพราะคล้ายกับมัลแวร์ Petya พบเมื่อปีที่แล้ว



โดยที่ยูเครนซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุด พบว่าระบบปฏิบัติการที่ขัดข้องมีทั้งงธนาคารกลาง รัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน สนามบินหลักและระบบรถไฟใต้ดิน ไปจนถึงโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ นอกจากนี้ยังพบการโจมตีในอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา แต่ผู้เชี่ยวชาญยังไม่ทราบที่มาของมัลแวร์เรียกค่าไถ่นี้ แต่คาดว่าจะใช้ช่องว่างของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ในการเข้าโจมตี เหมือนมัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCry



สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แถลงว่า กำลังดำเนินการสืบสวนเหตุโจมตี เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ขณะที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ระบุว่าไม่ควรจ่ายเงินค่าไถ่ให้กับคนร้ายเพราะแม้จะจ่ายเงินให้ไปแล้ว แต่ยังไม่แน่ว่าจะได้ข้อมูลคืนมา อย่างไรก็ตามมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากเกาหลีใต้ยอมจ่ายเงินค่าไถ่สูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้บริษัทความมั่นคงทางไซเบอร์แสดงความไม่เห็นด้วยเพราะจะยิ่งทำให้คนร้ายพัฒนามัลแวร์จตัวใหม่ออกมาก่อเหตุต่อไปอีก 


..


F163
ข่าวทั้งหมด

X