ผลสำรวจเผยภาพลักษณ์สหรัฐฯแย่ลงในสายตาของคนทั่วโลกนับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง

บีบีซีรายงานอ้างผลสำรวจล่าสุดของพิว รีเสิร์ช สถาบันวิจัยชั้นนำของสหรัฐฯว่า การเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลอย่างมากต่อทัศนคติของคนทั่วโลกว่า มองสหรัฐฯอย่างไร การสำรวจครั้งนี้ใช้วิธีสัมภาษณ์คนกว่า 4 หมื่นคนใน 37 ประเทศ ระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ถึง 8 พฤษภาคม ระบุว่าผลสำรวจบ่งชี้ว่าภาพลักษณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์และนโยบายต่างๆของเขาในภาพรวมนับว่าย่ำแย่ในสายตาของคนทั่วโลก

น่าสังเกตว่ามีเพียง 2 ประเทศจากทั้งหมดที่สำรวจคือ 37 ประเทศที่บอกว่า นายทรัมป์ดีกว่าอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำคนก่อนของสหรัฐฯ คืออิสราเอลและรัสเซีย แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าสัมพันธ์ระหว่างประเทศของพวกเขากับสหรัฐฯจะไม่เปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้ ก่อนหน้านี้นายทรัมป์พูดชัดเจนว่าบรรดาประเทศสมาชิกในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)ควรจะสมทบงบประมาณด้านกลาโหมให้กับนาโตอย่างเป็นธรรมให้มากขึ้น

นอกจากนี้การเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯของนายทรัมป์ยังสั่นคลอนมิตรเก่าๆจนถึงขั้นที่นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี พูดภายหลังการพบปะกับนายทรัมป์ว่าเธอรู้สึกว่ายุโรป โดยเฉพาะองค์การนาโตคงไม่อาจจะพึ่งพาสหรัฐฯ พันธมิตรที่เก่าแก่ของยุโรปได้อีกแล้ว แต่ตลอด 5 เดือนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ นายทรัมป์ได้เยือนมิตรประเทศที่สำคัญๆเช่นกันคือเยือนอิสราเอล ซาอุดิอาระเบียและอีกหลายประเทศก่อนหน้านี้ ส่วนผลสำรวจในสหรัฐฯเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่าคะแนนนิยมของนายทรัมป์ในสหรัฐฯยังอยู่ในระดับต่ำโดยต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม คือร้อยละ 39 เท่านั้นที่คิดว่านายทรัมป์ทำหน้าที่บริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันของเขา นายทรัมป์ยังมีคะแนนนิยมในระดับที่สูงคือร้อยละ 81