เวทีเสวนา 85 ปี การอภิวัฒน์ 2475 เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ หัวใจประชาธิปไตย คือรับฟังความเห็นต่าง

24 มิถุนายน 2560, 15:04น.


การจัดงานเสวนาในโอกาสครบรอบ 85 ปี การอภิวัฒน์ 2475 ในหัวข้อ ขุดรากถอนโคน โค่นมรดกคณะราษฎร นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปัญญาชน ได้กล่าวในหัวข้อสยามการอภิวัฒน์ 2475  ในทรรศนะปัญญาชนสยาม ว่า วันที่ 24  มิ.ย. 2475 คือวันที่สำคัญของคนไทย ในการเปลี่ยนแปลงการปกครองแต่สำหรับประชาชนที่มีแนวความคิดขวาจัด คิดว่าคณะราษฎรแย่งชิงอำนาจไปจากพระมหากษัตริย์ นายสุลักษณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่อดีตสังคมไทยถูกสร้างความเชื่อว่า การแบ่งลำดับชั้นทางสังคม การมีอำนาจรวมศูนย์ เป็นสิ่งที่ดี  โดยปัญญาชนกระแสหลักเน้นความยุติธรรมแต่เป็นความยุติธรรมไม่เสมอภาค เน้นความเสมอภาคในชนชั้นเดียวกัน  ส่วนเสรีภาพไม่ใช่เสรีภาพทางความคิด แต่มีแนวคิดเสรีภาพแบบไทยอยู่แล้วคือเสรีภาพทางใจ และตั้งแต่ปี 2475 ผู้ที่ยึดอำนาจมักจะบอกตัวเองว่าเป็นคนดี สามารถปกครองบ้านเมืองได้ดีกว่านักการเมืองที่กึ่งดีกึ่งเลว และไร้ศีลธรรมจรรยา จึงถามว่าการที่สังคมไทยฝากความหวังไว้ที่คน ๆ เดียว หรือสถาบันใดเพียงสถาบันเดียวเป็นสิ่งถูกต้องหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าการที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรม จำเป็นต้องเปิดให้คนทุกส่วนมีส่วนร่วมและตรวจสอบการใช้อำนาจได้ ทั้งนี้เสนอให้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาที่แสดงจุดยืน ว่า สิ่งสำคัญสุด คือมีเสรีภาพในนับถือศาสนา คำพูด ลงคะแนนเลือกตั้ง เสรีภาพในการรวมตัว การรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งคือหัวใจในประชาธิปไตย หรือให้มองไปที่ประเทศเล็กๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนา โดยนำหลักการพระพุทธศาสนามาปรับใช้ นายสุลักษณ์ กล่าวว่า หากต้องการให้การอภิวัฒน์เป็นจริงต้องเรียนรู้จากทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวจากอดีต ต้องยอมรับฟังความเห็นต่าง แก้ไขความผิดด้วยการกระทำ รวมไปถึงต้องฝึกใจให้กว้างเผชิญกับความจริง แสวงหาความรู้ ความจริงและความดี ซึ่งสถาบันการศึกษาไม่ได้สอนพร้อมถามจุดยืนไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่อธิการบดีไปเข้ากับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความเหมาะสมหรือไม่  อย่างไรก็ตาม นายสุลักษณ์ กล่าวปิดท้ายว่า ขอเรียกร้องให้เอาคสช. คืนไป และเอาประชาธิบไตย คืนกลับมา





ขณะที่ พ.ต.พุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา ทายาท พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา กล่าวว่า ที่มาพูดในวันนี้ไม่ใช่นักการเมืองแต่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งส่วนตัวรู้สึกภูมิใจที่บิดาของตัวเอง และคณะราษฎร นำระบอบประชาธิปไตยมาให้คนไทย  ซึ่งประชาธิปไตยไม่ใช่ของคณะราษฎร แต่เป็นของประชาชนทุกคน เพราะคำว่าประชาธิปไตยมาจากคำว่าประชาชน รวมกับอธิปไตยขณะที่บรรยากาศภายในงานมีประชาชน และนิสิต นักศึกษาเข้าร่วมรับฟังจนเต็มพื้นที่จนล้นออกไปด้านนอกห้องจัดเสวนา โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจนอกเครื่องแบบมาคอยสังเกตการณ์ความเรียบร้อยตลอดงานเสวนา โดยไม่ได้มีการห้ามจัดกิจกรรม



ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี  

ข่าวทั้งหมด

X