*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++สถานการณ์ใต้ ที่ จ.ปัตตานี พ.ต.อ.มานิตย์ ยิ้มซ้าย ผกก.สภ.หนองจิก เปิดเผยว่า ได้สนธิกำลัง 50 นาย ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 34 หมู่ 2 ต.ท่ากำชำ พร้อมควบคุมตัวนายหาสัน สะแต อายุ 36 ปี แกนนำระดับสั่งการตามหมายจับ ป.วิอาญา ปี 55 คดีความมั่นคง ที่ร่วมกับพวก 13 คน ใช้อาวุธสงครามบุกโจมตีฐานปฏิบัติการชุดพัฒนาสันติ 421 และฐานปฏิบัติการ ทหารพรานที่ 4213 หมู่ 1 เกาะแลหนัง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 54 ที่ผ่านมาควบคุมตัวกลุ่มแนวร่วมได้แล้ว 8 คน เบื้องต้นให้การภาคเสธจึงตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เกิดเหตุต่อไป
+++วันนี้ ฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) นัดประชุมร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)และกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เวลา13.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพเรือเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณแบบบูรณาการภายใต้โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าประจำปี 2558 ซึ่งตัวแทนภาคประชาชนปฏิเสธเข้าร่วม จึงต้องติดตามว่าจะมีการหยิบยกประเด็นร่วมจ่ายบัตรทองขึ้นมาหารืออีกหรือไม่
+++ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.จะลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อสำรวจพื้นที่การดำเนินการโครงการเร่งด่วนภายใต้แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร เวลา 08.30 น.
+++ก."คลัง"เตรียมแพ็คเกจจัด"ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง-มรดก" เสนอ "คสช." หลังได้รับมอบหมายให้ศึกษาแผนจัดเก็บภาษี เผยโครงสร้างภาษีใหม่กำหนดไว้ 3 อัตรา ระบุที่ดินว่างเปล่าไม่ใช้ประโยชน์มีโอกาสเก็บสูงถึงร้อยละ 2 ขณะที่ภาษีมรดกสามารถจัดเก็บได้เฉพาะที่จดทะเบียนในไทยเท่านั้น ย้ำแนวทางปฏิรูปภาษียึดกรอบ 3 แนวทาง หวังลดความเหลื่อมล้ำรายได้ เป็นธรรม และสร้างรายได้เข้ารัฐ ขณะที่คสช.ยันต้องดำเนินการในยุคนี้ เชื่อผู้ได้รับผลกระทบมีไม่มาก
++++ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตัวใหม่ จะเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทุกแปลง โดยใช้ฐานราคาประเมินของกรมธนารักษ์ โดยกำหนดโครงสร้างภาษี ในสามอัตรา ได้แก่ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเชิงพาณิชย์ เก็บในอัตราไม่เกิน 0.5% ของราคาประเมินที่ดิน ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อที่อยู่อาศัย เก็บในอัตรา 0.1% และที่ดินเพื่อการเกษตร เก็บในอัตราไม่เกิน 0.05% ทั้งนี้ อัตราจัดเก็บจริงจะขึ้นอยู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ในกรณีที่ที่ดินว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ความควรแก่สภาพที่ดิน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกเก็บในอัตรา 0.05% ของราคาประเมินที่ดิน
++++หากยังไม่ใช้ประโยชน์ติดต่อกัน ให้เพิ่มภาษีอีกหนึ่งเท่าในทุกๆสามปี แต่จำนวนภาษีที่เสียต้องไม่เกิน 2% ของราคาประเมินที่ดิน เชื่อว่า จะไม่กระทบกับบรรดาเจ้าของที่ดิน นักสะสมที่ดิน (แลนด์ลอร์ด) หรือนักเก็งกำไรที่ดินมากนัก หากพิจารณาราคาที่ดินบางแปลงสูงกว่าราคาประเมินค่อนข้างมาก ทำให้ราคาที่ดินมีมูลค่า หรือให้ผลตอบแทนมากกว่าการจ่ายภาษี แต่หากที่ดินดังกล่าวไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์เลย แล้วถูกจัดเก็บเพิ่มขึ้นเท่าตัวไม่เกิน 2% อาจมีผลกระทบบ้าง
++++นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ยืนยันถึงเป้าจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ในปีงบประมาณ 2557 ว่า จะพยายามไม่ให้รายได้หายไปเกิน 1 แสนล้านบาท จากเป้า 1.89 ล้านล้านบาทหลังจากช่วง 10 เดือนที่ผ่านมานี้หายไปแล้ว 9.3 หมื่นล้านบาท ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ แนวโน้มการจัดเก็บรายได้มีสัญญาณเป็นบวกจากช่วงครึ่งปีแรก เห็นได้จากเดือนก.ค.นี้ รายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นบวก หรือสูงกว่าประมาณการ 1.7% จากช่วงก่อนหน้าติดลบ สำหรับเป้ารายได้ปีงบประมาณ 2558 ที่ 1.96 ล้านล้านบาท มีแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ที่เป็นบวก โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีมูลค่าคาดว่ามากกว่า7 แสนล้านบาท ผลจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น
+++นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับคณะกรรมการ(บอร์ด) ปตท. โดยมีความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ ปตท.จะรับซื้อข้าวเสื่อมคุณภาพ ที่อยู่ในสต๊อก โครงการรับจำนำข้าว ประมาณ 1 แสนตัน เพื่อนำไปใช้ผลิตเป็นเอทานอล โดย ปตท.ยืนยันว่า กระบวนการผลิต เครื่องจักรที่มีอยู่สามารถรองรับได้ แต่ในหลักการว่าจะซื้อขายรูปแบบใด ราคาเท่าไหร่นั้นจะต้องมีการหารืออีกครั้ง
+++ในหลักการขายข้าวให้กับ ปตท. กระทรวงการคลัง จะต้องมีการหารือกับคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่าจะดำเนินการ ในลักษณะใด และต้องฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วย ส่วนจะขายข้าวที่อยู่ในสต๊อกทั้งหมด หรือขายมากกว่าที่คาดไว้หรือไม่ ยังไม่มีความเห็น และการขายข้าวจะไม่ซ้ำซ้อนในส่วนพิจารณาคดี ที่คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาอยู่ เมื่อคำนวณต้นทุนข้าวที่รับจำนำจะเฉลี่ยอยู่ที่ 24,000 บาทต่อตัน เป็นในส่วนของค่ารับจำนำ 15,000 บาทต่อตัน ค่าใช้จ่ายสีข้าว ค่าเก็บดูแลรักษา และต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ โดยที่ กระทรวงการคลัง คาดว่า จำนวนข้าวที่เสียหาย 1 แสนตันนั้นจะคิดเป็นมูลค่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รู้ว่าปตท.จะรับซื้อในราคาดังกล่าว
++++ พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม. 2 รอ.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเชิญตัว พล.ต.เจนรณรงค์ เดชวรรณ หรือ “เสธ.เจมส์” ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม กับพวก ประกอบด้วย น.ส.นงนุช สิทธิรัตน์ อายุ 44 ปี นายปานทอง ศิริวรรณ์ อายุ 40 ปี นางจันทิมา โชติกิตติเกษม อายุ 44 ปี และ น.ส.สุรัตน์ พุ่มพวง อายุ 46 ปี รวม 5 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ บก.ป.เพื่อให้ปากคำ หลังจากถูกร้องเรียนว่า มีส่วนพัวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์
+++พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหามีทั้งหมด 5 คน เป็นพลเรือน 4 คน ในส่วนของพลเรือนจะกักตัวไว้ที่ห้องขัง บก.ป. ตามอำนาจ พ.ร.บ.กฎอัยการศึกเป็นเวลา 7 วัน ส่วน พล.ต.เจนรณรงค์ ฝ่ายทหารจะรับไปดำเนินการเองโดยควบคุมตัวในพื้นที่ทหาร หลังพนักงานสอบสวน บก.ป.สอบปากคำ พล.ต.เจนรณรงค์กว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.เจนรณรงค์เผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีนี้สืบเนื่องจากตนได้รับร้องเรียนจากผู้ค้าย่านพัฒน์พงศ์ว่าถูกกลุ่มมาเฟียชุดเก่าเข้ามากดขี่ข่มเหง จึงเข้ามาจัดการกับปัญหา โดยจัดระเบียบให้ผู้ค้าในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้กลุ่มมาเฟียดังกล่าวเสียผลประโยชน์ จึงกลั่นแกล้งทำเรื่องร้องเรียนไปยัง คสช.เพื่อดำเนินการกับตน
+++กรณีนี้สามารถชี้แจงได้และเชื่อมั่นว่าผู้บังคับบัญชาจะรับฟังข้อเท็จจริงของปัญหา เรื่องนี้ตนจะต้องนำเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ต่อไป อยากฝากสื่อมวลชนเพื่อเป็นช่องทางที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้บังคับบัญชาว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของมาเฟียในพื้นที่เดิมเช่นเดียวกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับประชาชนหากพบหรือทราบเรื่องเรียกค่าคุ้มครอง สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้หรือแจ้งที่หมายเลข 1599 ได้ทันที
+++งานสัมมนาที่น่าสนใจ วันนี้เวลา 08.30 น. มีสัมมนาหัวข้อ "อนาคตเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤตการเมือง" ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด โดยมี นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ"เศรษฐกิจไทยภายใต้การบังคับหางเสือของ คสช.สู่เป้าหมายโตกว่า 2%" นอกจากนี้มีประธานสมาคมธนาคารไทยประธานสภาหอการค้าไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมไทยและผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เข้าร่วมอภิปรายด้วย
+++นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงรายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือน มิ.ย. หรือครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ว่าภาวการณ์บริโภค การลงทุน รวมถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจเป็นอย่างไร หลังแรงขับเคลื่อนสำคัญอย่างภาคการส่งออกแผ่วลงต่อเนื่องณ ชั้น 2 อาคาร 7 สำนักงานใหญ่บางขุนพรหม เริ่มเวลา 14.00 น.
+++ประเด็นที่หลายฝ่ายจับตามอง เมื่อน้องกอหญ้าที่เป็นข่าวกอดศพผู้เป็นแม่กลับเป็นข่าวอีกครั้งว่าถูกป้าเลี้ยงทำร้ายทรมานถึงขั้นให้กินอ้วก! พญ.สุธีรา ริ้วเหลือง จิตแพทย์กลุ่มงานจิตเวช สาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าฯ เผยว่า การลงโทษเด็กด้วยการตีบ่อยๆ อาจทำให้เด็กดื้อไม้ ดื้อมือ กลายเป็นเด็กต่อต้าน และไม่เชื่อฟังพ่อแม่ไปเลยก็ได้ ทั้งยังเป็นการหล่อหลอมให้เด็กซึมซับความรุนแรงและนำไปใช้กับผู้อื่นอีกด้วย วิธีลงโทษเด็กที่ได้ผลดีโดยไม่ต้องตีมีอยู่หลายวิธี เช่นการฝึกให้ รับผิดชอบในสิ่งที่ทำผิด เช่น ทำน้ำหกก็ต้องเช็ดเอง หรือลงโทษด้วยการให้ไปคัดลายมือ สำหรับครอบครัวที่เห็นว่า "การตี" คือวิธีการลงโทษที่ได้ผล และสามารถแก้ปัญหาพฤติกรรมของลูกได้นั้น ไม่ได้ห้ามการตีหากแต่ควรมีการตกลงและทำความเข้าใจกับเด็กก่อนว่า เขาจะถูกตีก็ต่อเมื่อทำผิดในเรื่องใด ไม่ใช่ตีสุ่มสี่สุ่มห้า
+++นายสมชาย เจริญอำนวยสุข ผู้อำนายการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เผยว่า ปัญหาน้องกอหญ้า อาจมาจากพฤติกรรมของเด็กอายุระหว่าง 4-6 ขวบ มักจะเรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบ และด้วยความเป็นเด็กการพูดโกหกเป็นพฤติกรรมที่เกิดจากการพูดไปตามจินตนาการและความรู้สึกในแบบเด็กๆ เท่านั้น ผู้ใหญ่ไม่ควรถือเป็นอารมณ์ ซึ่งเด็กอาจจะได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมการสั่งสอนของผู้ใหญ่ การสั่งสอนที่ดีผู้ใหญ่ก็ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย ไม่ใช่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ลงโทษแต่เด็ก ถ้าเด็กชอบโกหกตอนอยู่กับเรา พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ที่มีการระบุไว้ชัดเจนว่า ใครที่พบเห็นกระทำความรุนแรงต่อกันในครอบครัว ไม่ว่าต่อเด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย เขาเห็นว่า การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประเด็นนี้ควรเป็นในลักษณะของการแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ในปัจจุบันกลับพบเห็นในลักษณะของการถ่ายคลิปแล้วนำไปโพสต์เผยแพร่ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง