+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ร่วมงาน Thailand′s Big Strategic Move พบผู้ลงทุนทั่วโลกพร้อมกันเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นำเสนอความน่าสนใจของประเทศไทยและตลาดทุนไทยแก่กลุ่มผู้ลงทุนสถาบันทั้งไทยและต่างประเทศ
+++นายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอความน่าสนใจของประเทศไทย และตลาดทุนไทย แก่กลุ่มผู้ลงทุนสถาบัน ทั้งไทยและต่างประเทศ ทั้งด้านภาพรวมนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึง มาตรการต่างๆ ที่จะช่วยสนับสนุนการลงทุน การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการส่งเสริมธุรกิจ startups ในประเทศไทย ภายใต้โมเดล Thailand 4.0 เพื่ออนาคตของประเทศใน 20 ปีข้างหน้า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาพบนักลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นโอกาสที่ภาครัฐแสดงให้เห็นทิศทางและนโยบายให้ต่างชาติเห็น เพื่อยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ต่อผู้ลงทุนในตลาดทุน โดยเฉพาะกองทุนต่างชาติ ที่ให้ความสนใจการลงทุนในประเทศไทย
+++นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ ประเทศไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการออกกฎหมาย พ.ร.บ. เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ให้เป็นรูปธรรม และสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยศักยภาพของประเทศไทย ซึ่งอยู่ตรงจุดกลางภูมิศาสตร์ของอาเซียน ที่เชื่อมโยงระหว่างอาเซียน เอเชียตะวันออก เอเชียใต้
+++นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำถึงความสำคัญในการปฏิรูป คน ให้มีศักยภาพ และมีความพร้อมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงประเทศ หรือ ที่เรียกว่า Smart Thai ขณะเดียวกัน ให้ความมั่นใจในภารกิจของรัฐบาลตามโรดแมป คือ การเตรียมส่งมอบภารกิจให้กับรัฐบาลชุดใหม่ มารับหน้าที่บริหารประเทศต่อภายหลังการเลือกตั้ง ขออย่ากังวลเรื่องการเมืองภายในประเทศไทย เพราะรัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหา สร้างความเข้มแข็ง และทุกอย่างกำลังเดินไปตามโรดแมป ขณะที่ในด้านเศรษฐกิจไทยกำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ตลอด 3 ปี รัฐบาลไม่เคยเข้าไปสร้างผลกระทบ มีแต่การอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน และยืนยันว่า แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยจะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
+++นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โตขึ้นร้อยละ 3.3 สะท้อนถึงสัญญานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนของภาครัฐในโครงการสำคัญต่าง ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมพื้นฐาน การท่องเที่ยว การส่งออกของประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยไตรมาสแรกที่เติบโตต่อเนื่อง หลังจากปีที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีผลการดำเนินงานดีเยี่ยม โดยที่ผ่านมา ตลท.สนับสนุนแผนพัฒนาเศรษฐกิจ Thailand 4.0 ของรัฐบาล ด้วยการผลักดันให้มีหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่ที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรม และคลัสเตอร์เป้าหมายที่เป็นจุดแข็งของประเทศ พร้อมส่งเสริมความรู้และขยายช่องทางการระดมทุนให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ รวมถึงสตาร์ทอัพให้สามารถต่อยอดการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
+++นายสมคิด ปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมมนาผู้ลงทุนในตลาดทุนระดับนานาชาติ Thailand Big Strategic Move ว่ารัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผล นำความเชื่อมั่นกลับคืนมาด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากที่ตกต่ำลงมาถึงขีดสุดที่ร้อยละ 0.8 เมื่อ 3 ปีที่แล้ว กลับฟื้นคืนมาที่ร้อยละ 2.9 และร้อยละ 3.2 ในปี 2558 และ 2559 และล่าสุดที่ร้อยละ 3.3 ในไตรมาสแรกของปีนี้ คาดว่า ค่าเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 หรือสูงกว่า นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกดีขึ้นจะส่งผลให้การส่งออกของไทยให้ดีขึ้น ซึ่งถ้าไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบันมาก เชื่อว่าส่งออกในปีนี้ จะเติบโตได้ 2 หลัก
+++กรณีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)แสดงความเป็นห่วงเรื่องระบบไพรมารีโหวต ในร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง อาจมีปัญหาในทางปฏิบัติต่อพรรคการเมืองเตรียมผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ทัน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กรธ.กังวลในทางปฏิบัติ ว่า กรธ.ต้องไปคุยกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ถ้ามีข้อโต้แย้งว่าไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นก็ต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายมาพิจารณา แต่ข้อโต้แย้งต้องไม่ใช่เรื่องปลีกย่อย หรือเรื่องเล็กน้อย เมื่อถามว่า เรื่องไพรมารีโหวตที่อาจเป็นปัญหาในทางปฏิบัติถือเป็นข้อโต้แย้งที่เป็นเรื่องเล็กน้อยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องขอดูรายละเอียดก่อน อย่าเพิ่งไปสมมติ
+++ส่วนร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หากกกต.จะมีข้อโต้แย้งต้องส่งเรื่องมาเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายภายในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ จากนั้นจะตั้งตัวแทนกรธ. 5 คน สนช.5 คน และประธานกกต.1 คน โดยตัวแทนสนช.5 คน จะประชุมพิจารณาคัดเลือกในวันที่27 มิ.ย.
+++พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารใบหยก 1 เขตราชเทวี ตามมาตรการดูแลความปลอดภัยอาคารสูง ตั้งแต่ 23 เมตร หรือตึก 8 ชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติภัย เช่นเดียวกับกรณีเพลิงไหม้ตึกแกรนด์เฟลล์ ทาวเวอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากการตรวจสอบ พบว่าอาคารใบหยก 1 มีการใช้ประโยชน์ทั้งโรงแรม ร้านค้า และภัตตาคาร แม้จะเป็นอาคารเก่า ตั้งแต่ปี 2527 แต่มีแผนการป้องกันและระงับเหตุ อัคคีภัยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทั้งการติดตั้งถังดับเพลิง สายน้ำดับเพลิง ปั๊มน้ำ ระบบแจ้งเตือนเหตุด้วยมือ รวมถึงการปรับปรุงบันไดหนีไฟให้เป็นบานผลัก สามารถเปิดปิดได้อัตโนมัติ ได้แนะนำให้เพิ่มความยาวของสายดับเพลิงจากท่อยืนเป็น 30 เมตรเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ในแต่ละชั้น
+++ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีอาคารสูง จำนวนทั้งสิ้น 2,810 อาคาร ที่ปลูกสร้างก่อนการประกาศใช้กฎกระทรวง ฉบับที่33ตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 จำนวน 1033 อาคารและอาคารที่ปลูกสร้างหลังการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับที่ 33 จำนวน 1,777 อาคาร ได้กำชับให้สำนักการโยธา และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เข้มงวดในการตรวจสอบ อาคารเก่าและอาคารใหม่ หากพบข้อบกพร่องตามที่กฎหมายกำหนดสำนักงานเขตจะออกคำสั่งให้แก้ไขให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดแต่ต้องไม่น้อยกว่า 30 วัน หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีและสั่งระงับการใช้อาคาร
+++กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงยกเลิกการประชุมร่วมในระดับทวิภาคี ระหว่างนายเซอร์เก รีอับคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กับนายทอม แชนนอน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ตามกำหนดจะมีขึ้นที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในวันศุกร์ที่ 23 มิ.ย. โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเดินตามรอย อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในการใช้นโยบายที่มุ่งทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
+++กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เพิ่มรายชื่อบุคคลและนิติบุคคลในรัสเซีย 38 รายชื่อ เข้าสู่บัญชีการคว่ำบาตร ฐานเข้าข่ายสนับสนุนกองกำลังแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน
+++ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศตึงเครียดขึ้นตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ เมื่อเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯยิงเครื่องบินรบของซีเรียตกในจังหวัดรักกา และนักบินของซีเรียนายหนึ่งยังคงสูญหาย จากนั้นก็มีการเผชิญหน้าครั้งใหม่ระหว่างเครื่องบินรบของทั้งสองประเทศ บริเวณเขตน่านฟ้าสากลเหนือทะเลบอลติก และเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) บินเข้าหาเครื่องบินของพล.อ.เซอร์เก ชอยกู รมว.กระทรวงกลาโหมรัสเซีย บริเวณเขตน่านฟ้าสากลเหนือทะเลบอลติก ก่อนถอยออกไปเมื่อเครื่องบินขับไล่ซู-27 ที่คุ้มกันเครื่องบินของพล.อ.ชอยกู เข้ามาขวางไว้
CR:รัฐบาลไทย