*โผ ครม.ชุดใหม่ /โควต้าสนช./คตร.เอาผิดโครงการทุจริต*

31 กรกฎาคม 2557, 07:18น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.



+++หลัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความ สงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ เดินทางมาตรวจเยี่ยมความพร้อมของรัฐสภา ในการ เตรียมการสนับสนุนภารกิจด้านนิติบัญญัติ เพื่อรองรับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ส่วนการเปิดรัฐพิธีวันที่ 6 ส.ค. ยังไม่มีกำหนดการดังกล่าว และถ้าโปรดเกล้าฯ สนช.เมื่อใด สนช.ก็พร้อมทำงานทันที



+++ส่วนประเด็นการยื่นถอดถอน  นางนรรัตน์ พิมพ์เสน เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ คสช.จะเห็นชอบให้นำเรื่องใดขึ้นมาพิจารณา ส่วนกรณีที่วุฒิสภาลงมติเลือก น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นกรรมการ ป.ป.ช.ก่อนรัฐประหาร เรื่องดังกล่าวคงต้องรอให้ สนช. เป็นผู้พิจารณาต่อไป นอกจากนั้น  รัฐธรรมนูญ 2550 ถูกยกเลิกแล้ว จึงต้องดูข้อกฎหมายก่อน และต้องให้ประธาน สนช.พิจารณาเป็นเรื่องๆ ต่อไป



++++ความคืบหน้าการส่งสำนวนการชี้มูลความผิดคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานอัยการ สูงสุด นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ปธ.ปปช. กล่าวว่า อยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดสำนวนคดีส่งให้อัยการสูงสุด คาดว่าจะส่งให้อัยการสูงสุดได้ภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่สำนวนคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ในโครงการรับจำนำข้าวที่ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดไปตั้งแต่เดือน พ.ค.2557 ขณะนี้เรื่องก็ยังอยู่ที่สำนักงาน ป.ป.ช. เช่นกัน เนื่องจากในช่วงที่ ป.ป.ช.จะส่งสำนวนให้วุฒิสภาดำเนินการถอดถอน เป็นช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ยุบวุฒิสภาพอดี จึงต้องชะลอการส่งสำนวนคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ไว้ก่อน



+++การเสนอชื่อบุคคลในส่วนของ ป.ป.ช.เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ปธ.ปปช. กล่าวว่า ต้องรอให้ คสช.ติดต่ออย่างเป็นทางการมาก่อน หากจะส่งตัวแทนเข้าไปใน สปช. อาจเป็นผู้ที่รู้เกี่ยวกับกฎหมายและยุทธศาสตร์ ป.ป.ช. เช่น นายวิชา มหาคุณ นายวิชัย วิวิตเสวี นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.หรือนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช.



+++ความคืบหน้าการสรรหานายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช.ตัดสินใจเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอนแล้ว ขณะที่จัดตั้ง ครม.สัปดาห์ที่แล้ว  คสช.หลายคนได้มีการพูดคุยทาบทามบุคคลในกองทัพ นักวิชาการ และ ตัวแทนนักธุรกิจเอกชน อย่างไรก็ตาม คาดว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. จะเป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีต รอง ผบ.ทบ. จะดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้า ฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. จะดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน  ส่วนรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานด้านเศรษฐกิจ มีชื่อของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันเป็นรองประธานคณะที่ที่ปรึกษา คสช.จะมาเป็น รมว.คลัง และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะ มาเป็น รมว.พาณิชย์



+++ส่วนรายชื่อ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คสช. เร่งตรวจสอบประวัติรายชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตามรายชื่อที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ในฐานะที่รับผิดชอบดูแลกระบวนยุติธรรมและกฎหมาย เสนอรายชื่อเข้ามาเพื่อคัดเลือกบุคคลจำนวน 220 คน คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะนำขึ้นทูลเกล้าฯในระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม - 3 สิงหาคมนี้ เพื่อให้เปิดการประชุมนัดแรกกลางเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีต่อไป



+++สำหรับบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่ง สนช.นั้น ต้องสามารถปฏิบัติงานได้ทั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกรัฐสภา และทั้ง 3 องค์ประกอบนี้มีหน้าที่พิจารณาในการผ่านกฎหมายสำคัญ โดยเฉพาะกฎหมายพิเศษ ทั้งนี้รายชื่อที่คาดว่าจะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็น สนช.นั้น มีการแบ่งโควต้ากันคร่าวๆ คือในส่วนของกองทัพบก 60 คน กองบัญชาการกองทัพไทย 20 คน กองทัพเรือ 15 คน กองทัพอากาศ 15 คน สำนักงานปลัดกลาโหม 10 คน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 10 คน ส่วนโควต้าที่เหลือจะมาจากนักวิชาการ กลุ่มเอ็นจีโอ นักธุรกิจจากหลายสาขาอาชีพ อดีตสมาชิกวุฒิสภา



+++ รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แจ้งว่า สำหรับรายชื่อนายตำรวจที่ คสช.อาจเสนอเป็น สนช.คาดว่าไม่เกิน 10 คน อาทิ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.น.



+++ด้าน พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชี ทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ครั้งที่ 8/2557 ล่าวว่า ในการ ปฏิบัติงานของ คตร.หลังจากได้ตรวจสอบโครงการต่างๆแล้ว ต่อจากนี้ไปจะมีการลงโทษหน่วยงานหรือบุคคลที่กระทำการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นซ้ำอีก พร้อมกันนี้ยังได้ขอให้ฝ่ายเลขานุการไปดำเนินการรวบรวมผลการปฏิบัติงานตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนมาด้วย เพื่อตรวจสอบว่ามีงบประมาณที่สามารถติดตามกลับคืนมาได้มากน้อยเพียงใด



+++ที่ประชุมสั่งให้ติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของโครงการไทยเข้มแข็ง และโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทนจำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ ค่าก่อสร้างอาคารและชิ้นงานนิทรรศการศูนย์รวบรวมและถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรมชั้นสูงเพื่อการท่องเที่ยว โครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน 800 เมกะวัตต์ ซึ่งในอนาคตหากมีการประมูลโครงการใหญ่เกิดขึ้นจะมีการส่งตัวแทนของ คตร.หรือผู้แทนไปสังเกตการณ์ในวันทำการประมูลโครงการต่างๆ ของส่วนราชการทุกโครงการด้วย



+++ส่วนความคืบหน้า ชาวนา ฟ้อง ศาลเรียกค่าเสียหาย100 ล้านบาทอดีตรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จ่ายเงินจำนำข้าวล่าช้า ล่าสุด ศาลแพ่ง นัดไกล่พระพุทธะอิสระ อดีตแกนนำ กปปส. ได้พาชาวนาที่เป็นโจทก์บางส่วนมาศาลเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ นายพายัพ เฮ้าประมงค์ ทนายความ ระบุว่าเหตุผลที่ชาวนาไม่สามารถยอมความในคดีได้ เนื่องจากชาวนาได้รับเงินจำนำข้าวล่าช้าหลายเดือน ชาวนาส่วนใหญ่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ ที่คิดดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20-30 ต่อเดือน พระพุทธะอิสระจึงได้ยื่นข้อเสนอให้ ธ.ก.ส.รับชำระหนี้นอกระบบของชาวนาแทนทั้งหมด เพื่อให้ชาวนาได้ชำระค่าดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ตามกฎหมาย จะทำให้คดีนี้ยุติได้ด้วยดี โดยตัวแทน ธ.ก.ส.ยืนยันนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ทั้งนี้ศาลแพ่งกำหนดนัดพิจารณาคดีนี้อีกครั้ง ในวันที่ 18 ก.ย.57 ส่วนเรื่องหมายจับพระพุทธะอิสระข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งนั้น ยืนยันที่ผ่านมาศาลอาญาได้ออกหมายจับพระพุทธะอิสระในข้อร่วมกันเป็นกบฏต่อแผ่นดินไปแล้ว ดังนั้นหมายจับในข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งจึงยกเลิกโดยปริยาย



+++ตำรวจรวบสองพี่น้อง เจ้าของโกดัง จ.ปทุมธานี  ฉกข้าว  9.8 หมื่นกระสอบ ค่าเกือบ 100 ล้าน พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แถลงข่าวการจับกุมตัว นายกิตติพงศ์ หรือ เล็ก แสนวรางกุล และ นายธีระศักดิ์ หรือ เสี่ยใหญ่ แสนวรางกุล ซึ่งเป็นพี่น้องกันและเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี เลขที่ จ 149/2557 และ จ 150/2557 ลงวันที่ 29 ก.ค. 2557 หลังร่วมกันขโมยข้าวในโครงการรับจำนำข้าวไปขาย  9.8 หมื่นกระสอบ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 98 ล้านบาท โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ โรงแรมริชมอนด์ รัตนาธิเบศร์ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ค.



+++หลังตรวจสอบพบมีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในเขตพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย วางแผนทำสัญญากับ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เพื่อให้เช่าพื้นที่โกดังในการเก็บข้าว ซึ่งเมื่อทาง อ.ต.ก.นำข้าวมาเก็บที่โกดังดังกล่าว ทั้ง 2 คนจึงลักทรัพย์ข้าวที่ฝากไว้ จำนวนหลายครั้ง รวมปริมาณข้าวที่สูญหายเป็นจำนวน 9.8 หมื่นกระสอบคิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 98 ล้านบาท ก่อนจะหลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมได้ในที่สุด จากการสอบสวนพบว่าเป็นการกระทำเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป  นอกจากคดีข้าวหายในพื้นที่ปทุมธานีแล้ว ยังได้รับรายงานเพิ่มเติมอีกว่าในพื้นที่จังหวัดพิจิตร อำเภอตะพานหิน ก็มีข้าวหายไปจากโกดังเช่นเดียวกัน 

ข่าวทั้งหมด

X