เบลเยียมคุมเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟได้แล้ว/ผลสำรวจทรัมป์ร่วง/น้ำมันโลก หุ้นสหรัฐฯ ทองคำร่วง

+++สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานเหตุการณ์ที่กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม อ้างอิงโฆษกสำนักงานอัยการแห่งเบลเยียม แถลงว่า ได้เกิดเหตุระเบิดขนาดเล็กบริเวณสถานีรถไฟเซ็นทรัล ในกรุงบรัสเซลส์ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทหารที่ลาดตระเวนบริเวณสถานีรถไฟดังกล่าว รีบไปดูความเรียบร้อยและไปพบชายต้องสงสัยจึงได้ใช้อาวุธปืนยิง ตำรวจเบลเยียม ยังไม่ยืนยันว่า ชายต้องสงสัยสวมเสื้อกั๊กคาดระเบิดหรือไม่ และยังไม่ยืนยันด้วยว่า เขายังมีชีวิตหรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรีชาร์ลส์ มิเชล ของเบลเยียม กล่าวผ่านทวีตเตอร์ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ด้วย

+++เจ้าหน้าที่ตำรวจ สั่งอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว

+++สื่อท้องถิ่น รายงาน จากคำบอกเล่าของพยานระบุว่า ชายต้องสงสัยได้ตะโกนข้อความสรรเสริญพระเจ้าก่อนที่จะเกิดระเบิดขนาดเล็ก กำลังทหารรีบเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เห็นมีสายไฟโผล่ออกมาจากเสื้อของชายคนดังกล่าว จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเพื่อยุติการเคลื่อนไหว

+++นอกจากนี้ มีรายงานจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์ว่าได้ยินเสียงระเบิดสองครั้ง และได้ยินเสียงคนร้อง ขณะกำลังรอรถไฟที่ชานชาลา จากนั้นมีประกาศรักษาความปลอดภัยจากทางสถานี และมีกำลังทหารจำนวนมากรีบลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัย ขณะที่ บางคนที่กำลังเดินเข้าไปที่สถานีรถไฟสวนกับคนที่วิ่งออกมา เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นจำนวนมาก

+++สถานีรถไฟเซ็นทรัลอยู่ติดกับย่านใจกลางเมืองรวมถึงจัตุรัสกรังด์ปราซ์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมอย่างหนาแน่นรวมทั้งประชาชนที่เข้าไปเที่ยวช่วงค่ำของฤดูร้อน เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว

+++กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม เคยเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายสนามบินกรุงบรัสเซลส์ มีผู้เสียชีวิต 32 ศพ และเกิดเหตุสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2559          

+++ส่วนเหตุคนร้ายขับรถพุ่งชนคนด้านหน้ามัสยิด ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน อังกฤษ ตำรวจลอนดอน เปิดเผยชื่อคนร้าย คือ ดาร์เรน ออสบอร์น วัย 47 ปี คุณพ่อลูก 4 ที่เจอข้อหาพยายามฆ่า และกระทำการก่อการร้าย เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 11 คน นายออสบอร์น ถูกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุรวบตัวไว้ได้ในทันทีหลังก่อเหตุและเกือบถูกรุมประชาทัณฑ์ แต่ตำรวจมาห้ามเอาไว้ก่อน

+++ ครอบครัวของเขาตกใจมาก เมื่อทราบข่าวว่าเขาไปก่อเหตุร้ายได้ถึงเพียงนี้ ตำรวจเชื่อว่านายออสบอร์น จงใจโจมตีชาวมุสลิมด้วยอคติเกลียดชังชาวมุสลิม ตำรวจยังไปตรวจค้น บ้านของนายออสบอร์น ตามที่อยู่ในเขตคาร์ดิฟฟ์ด้วย เบื้องต้นคาดว่าเขาน่าจะก่อเหตุเพียงลำพัง จากการตรวจสอบไม่เคยมีประวัติก่ออาชญากรรม

+++ผลสำรวจของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส นิวส์ของสหรัฐฯ ว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ร่วงลงมาอยู่ที่ร้อยละ 36 เป็นผลจากทัศนคติเชิงลบของชาวอเมริกันต่อเรื่องการจัดการคดีของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะการสอบสวนกรณีการก้าวก่าวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯของรัสเซีย

+++ผลสำรวจบ่งชี้ว่าชาวอเมริกัน 1 ใน 3 คนระบุว่าแนวทางการสอบสวนคดีรัสเซียของนายทรัมป์ทำให้พวกเขามีทัศนคติเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของผู้นำสหรัฐฯร้อยละ 63 ระบุว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับแนวทางการสอบสวนคดีรัสเซียของนายทรัมป์ โดยในประเด็นนี้ผู้นำสหรัฐฯได้คะแนนนิยมต่ำกว่าการจัดการเรื่องอื่นๆรวมถึงเรื่องเศรษฐกิจและปัญหาก่อการร้าย

+++ผลสำรวจคะแนนนิยมของผู้นำสหรัฐฯครั้งหลังสุดที่สถานีข่าวซีบีเอสจัดทำคือเมื่อเดือนเมษายน ครั้งนั้น คะแนนนิยมของนายทรัมป์อยู่ที่ร้อยละ 41 สำหรับการจัดทำโพลล์ครั้งนี้ใช้วิธีการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ประชากรวัยผู้ใหญ่ 1,117 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15-18 มิถุนายน

+++หลังกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ประกาศล็อกเป้าอากาศยานทุกประเภทของกองทัพสหรัฐฯและพันธมิตร ที่ผ่านเข้ามาในเขตตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส หลังเครื่องบินขับไล่เอฟ-18 ของสหรัฐฯ ยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดซู-22 ของซีเรีย ตกในจังหวัดรักกา เมื่อวันอาทิตย์ และนักบิน 1 นายยังคงสูญหาย

+++กระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ประกาศระงับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย เป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นไปตามมาตรการป้องกันด้านความมั่นคง โดยจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตัดสินใจกลับมาปฏิบัติการอีกครั้งเมื่อใดก็ตาม จะเกิดขึ้นหลังการพิจารณาตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการทางทหารในอิรักร่วมกับสหรัฐฯและพันธมิตรอีกหลายประเทศจะยังคงดำเนินต่อไป

+++ความพยายามของโปรตุเกสในการดับไฟป่า บริเวณแถบเทือกเขาของเปโดรเกา กรันเด สามารถควบคุมได้แล้วกว่าร้อยละ 85 หลังจากหน่วยดับเพลิงทางภาคพื้นมากกว่า 1,000 นายและเครื่องบินดับเพลิงจากหลายประเทศ ทำงานหนักต่อเนื่อง ไฟป่าที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นห่างจากกรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส ไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือราว 200 กิโลเมตร ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว  64 ศพ โดยจำนวนมากเสียชีวิตภายในรถยนต์ขณะกำลังพยายามขับรถหนีเปลวเพลิง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 160 คน มีการปฎิเสธแล้วเรื่องที่มีข่าวว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดน้ำลำหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างร่วมภารกิจดับไฟป่าครั้งเลวร้ายทางภาคกลางของโปรตุเกส ประสบอุบัติเหตุเมื่อวานนี้

+++ตัวเลขจากระบบข้อมูลไฟป่าของสหภาพยุโรป พบว่าไฟป่าเผาผลาญกินเนื้อที่แล้วมากกว่า 1 แสน 87,500 ไร่ ทำให้กลายเป็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโปรตุเกสๆ ประกาศไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วันให้กับผู้เสียชีวิต

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 97 เซนต์ ปิดที่ 43.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 89 เซนต์ ปิดที่ 46.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน  น้ำมันทั้งสองสัญญาขยับลงมาแล้วกว่าร้อยละ 15 นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โอเปก รัสเซียและพวกผู้ผลิตอื่นๆ ตกลงขยายกรอบเวลาลดกำลังผลิตออกไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2018

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเล็กน้อย ตามแรงฉุดกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันขยับลงต่อเนื่อง และสายการบินต่างๆที่ประสบปัญหายกเลิกเที่ยวบิน   ดาวโจนส์ ลดลง 61.85 จุด ปิดที่ 21,467.14 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 16.43 จุด ปิดที่ 2,437.03 จุด แนสแดค ลดลง 50.98 จุด ปิดที่ 6,188.03 จุด

+++ส่วนราคาทองคำ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่คาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกในปีนี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,243.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

CR:BBC