นายกฯสั่งสธ.ทำความเข้าใจเรื่องบัตรทอง เร่งซ่อมกล้องซีซีทีวีที่เสียหายกว่า3หมื่นตัว

20 มิถุนายน 2560, 17:48น.


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการในที่ประชุมให้กลับมาดำเนินการ จัดการประชุม ครม.สัญจรขึ้นอีกครั้ง ใน 6 ภูมิภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึงพื้นที่ใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป นอกจากนี้ยังสั่งการให้รัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยแต่ละกระทรวง ลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ แบบบูรณการกานทำงานอย่างเป็นระบบ โดยให้ลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาอย่างแท้จริง และทำความเข้าใจกับข้าราชการในพื้นที่ในทุกระดับโดยตรงเชื่อมั่นว่าวิธีนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาการบิดเบือนข้อมูลให้จะลดลงได้



นอกจากนี้พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รายงานผลการประชุมคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบการใช้งานของระบบ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) จากผลการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงาน ว่ามีกล้องทั้งสิ้น 321,000 ตัว เสียหายกว่า 30,000 ตัว จึงได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานพิจารณา งบประมานของหน่วย เพื่อใช้ในการซ่อมบำรุง แต่หากไม่เพียงพอสามารถรายงานเข้ามาเพื่อเข้าสู่การพิจาณาจัดสรรงบประมานเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังพบว่า ยังมีการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมในบางพื้นที่ จำนวน 47,000 ตัว ที่ต้องติดตั้งเพิ่มเติมในหน่วยงานราชการเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่เนื่องจากกล้องที่มีอยู่ยังไม่เชื่อมโยงกันทั้งหมด เบื้องต้นให้แต่ละหน่วยงานพิจารณาใช้งบประมาณของหน่วย และดำเนินการให้เสร็จสิ้นทั้งการ ซ่อมบำรุงกล้องเดิมที่มีอยู่และการติดตั้งกล้องเพิ่ม  ภายใน 3 เดือน หากพบว่าในพื้นที่ของหน่วยงานใดกล้องวงจรปิดทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ หัวหน้าหน่วยงานนั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ



ขณะเดียวกัน นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ได้กล่าวรายงานการจัดทำร่าง พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพฉบับใหม่ ที่อยู่ในระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยจัดเวทีทำประชาวิจารณ์ใน3จังหวัด และในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวม 4 เวที แต่มีความพยายามที่จะล้มเวที นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณะสุขเร่งทำความเข้าใจต่อประชาชน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข รายงานว่าในวันพรุ่งนี้ (21/มิถุนายน/2560) กระทรวง จะจัดเวทีเสวนาทำความเข้าใจถึงความเข้าใจถึง พรบ. ฉบับเก่าและฉบับใหม่ใน 14 ประเด็น พร้อมยืนยันว่าสิทธบัตรทอง ยังมีอยู่เหมือนเดิมในพรบ. ฉบับใหม่ ไม่ได้ถูดริดรอนไป แต่ พรบ. ฉบับใหม่จะแตกต่างในเรื่องของบริหารจัดการ



ส่วนการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ที่เกษตรกรหลายคนเป็นกังวลว่าราคาจะตกต่ำเหมือนในช่วงปี 2558 ถึงมกราคม 2559 โดยได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการ ใน 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะแรกชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกร รวมถึงดำเนินการในเรื่องที่เคยเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหา และเชิญบริษัทรับซื้อยางจำนวนมากเข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจ โดยขอความร่วมมือเพื่อไม่ให้ราคายางตกต่ำ รวมทั้งให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสต๊อกยาง ที่เกษตรกรอ้างว่ามีส่วนทำให้ราคายางตกต่ำ หลังจากนั้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะจัดตั้งตลาดรับซื้อยางขนาดใหญ่ 6 แห่งทั่วประเทศและไม่มีการเก็บไว้ในสต๊อก ร่วมทั้งลดพื้นที่การปลูกยางและ ส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นตามที่ตลาดต้องการ และจะมีการนัดพูดคุย ระหว่าง 3 ประเทศประกอบด้วยสิงคโปร์มาเลเซียและไทย เพื่อจัดตั้งตลาดและให้การดำเนินงาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ



ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม 

ข่าวทั้งหมด

X