หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวปฐกถาระบุว่า รัฐบาลทหารจะอยู่ถึง10 ปี โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเสกสรรค์ จะพูดอะไรก็พูดไป ตัวเองก็รับฟัง แต่ยืนยันว่าตามกลไกต้องมีการเลือกตั้งซึ่งเกิดขึ้นในปี 2561
ส่วนกรณีร่างพ.ร.ป.พรรคการเมืองที่ให้มีระบบไพรมารีโหวต ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องพิจารณาตามกลไกของกฎหมาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาล โดยมองว่าเป็นกลไกการปฏิรูปทางการเมือง ซึ่งหากต้องการให้มีการพัฒนาหลายอย่างจะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปบ้าง เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล
เช่นเดียวกับ 4 คำถาม พอคนตอบมาน้อย แล้วมองว่า ตนไม่มั่นใจ จะมีคนมาตอบ กี่คนกี่ไลค์ ไม่ได้สนใจตรงนั้น จะตอบเท่าไหร่นั่นไม่ทราบ ที่รายงานล่าสุด มีประชาชนมาตอบคำถาม 8-9 หมื่นคนแล้ว อย่าสนใจแต่วันแรก
ทั้งนี้ พบว่า ประชาชนที่มาตอบคำถามส่วนใหญ่อยากได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ขอให้ประชาชนกลับไปคิดต่อเอง ซึ่งต้องดูที่กลไกการทำงานของทุกฝ่ายที่จะต้องมีการปฏิรูปไปพร้อมกัน
ส่วนกรณีการจับกุมตัวผู้ต้องหาวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หลังรับสารภาพว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกล่าวว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าว ไม่มีรายย่อย ต้องมีรายใหญ่อยู่เสมอ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่ต้องติดตามขยายผลต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าจับได้แล้วจะหยุดดำเนินการ
ส่วนการขยายผล พบมีความเชื่อมโยงกับ แกนนำหัวรุนแรงที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้มองไปที่นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ คนเดียว เพราะยังมีอีกหลายคนที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้ และเหตุจูงใจในการก่อเหตุที่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ชอบทหาร ไม่อยากให้สนใจมากนัก เพราส่วนตัวเองก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบ สนใจแค่ว่าประเทศชาติมีปัญหาอยู่ที่ไหน ต้องเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างไร
ส่วนกรณีที่มีคนร้ายลอบวางระเบิด ที่อำเภอทุ่งยางแดงจังหวัดปัตตานี จนทำให้ทหารเสียชีวิต 6 นายและมีทหารบาดเจ็บอีก 4 นาย ซึ่งเหตุการณ์นี้อยู่ในช่วงสุดท้ายของ 10 วันของการถือศีลอด หรือ เดือนรอมฎอน ต้องไปดูว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะยังคงมีคนพยายามบิดเบือนคำสอนของศาสนาที่ระบุว่า ก่อเหตุช่วง 10 วันสุดท้ายมักได้บุญ
ซึ่งรัฐบาลยังคงให้ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินประชาชน เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่ทหารโดนก่อน ทำให้ไม่มีประชาชนเสียชีวิต พร้อมยืนยันรัฐบาลจะป้องกันให้ได้แต่ขอสื่อมวลชนอย่าพึ่งตั้งเป้าโจมตี ให้โอกาส หน้าที่ปฏิบัติงานบ้าง โดยขอให้คิดว่าทหารสร้างความปลอดภัยด้วยชีวิต เพราะคนจ้องลอบวางระเบิดกับคนเฝ้าระวังคนละกลุ่มกัน ซึ่งรัฐบาลได้มีการพูดคุยกับหลายกลุ่มในพื้นที่มานานถึง 6 เดือนแล้ว แต่ไม่สามารถพูดคุยแล้วเรื่องจบในทันที ดังนั้นจึงต้องค่อยๆพูดคุยและเจรจาเพื่อยกระดับเรื่องความปลอดภัย พร้อมตัดพ้อสื่อ โดยระบุว่ารัฐบาลแก้ปัญหามาหลายเรื่องและมาหลายปีแล้ว
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี