ผบ.ตร.แถลงแจ้ง5ข้อหามือระเบิดรพ. ยันไม่มีคนบงการ ต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

20 มิถุนายน 2560, 15:14น.


หลังเจ้าหน้าที่ทหารนำโดยพลตรีวิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำตัวนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62  ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิด โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าฯ และอีกหลายจุดในกรุงเทพมหานคร ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังนำตัวสอบปากคำจากกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เขตดุสิต  เป็นเวลา 6 วัน โดยพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีระเบิดฯ พร้อมคณะชุดสืบสวนสอบสวนรอรับตัว โดยเจ้าหน้าที่ทหารส่งมอบตัวและนำนายวัฒนา มาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ตรวจร่างกาย โดยแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ  ก่อนทำการสอบสวนเบื้องต้น พิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อทำทะเบียนประวัติผู้ต้องหา จากนั้นนำตัวไปแถลงข่าวที่ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  





ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า วันนี้เป็นคำตอบชี้ชัดแล้วว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น รัฐบาลไม่ได้เป็นคนทำ ซึ่งตำรวจ ได้มีประสบการณ์ในการทำคดีระเบิดมาจากเหตุระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ พร้อมยอมรับว่าการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุระเบิด โอกาสที่จะจับได้มีเพียง 0 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และตั้งแต่ปี 2550 ก็ไม่ได้มีหลักฐานชี้ชัด ยืนยันมากเท่านี้ โดยขณะนี้ตำรวจยังไม่ตัดพยาน หลักฐานต่างๆ และพยายามขยายผลว่ามีใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งขณะนี้นายวัฒนา ยอมรับว่าก่อเหตุเพียงคนเดียวเท่านั้น และหากตำรวจพบว่ามีใครเกี่ยวข้องทั้งแนวความคิด หรือส่งเสริม สนับสนุน จะดำเนินการทันที ส่วนเพื่อนสาวคนสนิท หากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยง จะออกหมายจับทันที  พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยืนยันว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ เป็นการจับถูกคน ไม่ใช่จับแพะ





ด้านพลตำรวจตรีชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 ระบุว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เก็บพยานหลักฐานจากในที่เกิดเหตุ และรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิด ไล่ลำดับเหตุการณ์ ทำให้สามารถควบคุมตัวนายวัฒนาได้ แต่จากการสอบถามครั้งแรก นายวัฒนา ไม่ยอมรับ ทหารจึงเข้าไปตรวจค้นบ้านพัก พบอุปกรณ์การประกอบระเบิด และหลักฐานที่แสดงถึงสัญลักษณ์แนวคิดทางการเมือง จึงซักถามครั้งที่สอง นายวัฒนาจึงยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุทั้งในปี 2550 และปี 2560 ทั้งหมด 6 จุด ตอนนี้ศาลออกหมายจับนายวัฒนา 5 คดี คือ คดีระเบิดหน้ากองสลากเก่า, ระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ, ระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, หน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน ซึ่งทั้ง 4 หมายจับนี้ ถูกดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทำให้เกิดการระเบิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส มีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้เสียทรัพย์





ส่วนคดีที่บ้านพักย่านบางเขน ถูกดำเนินคดีในข้อหา มีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต



ขณะที่คดีที่หน้าปากซอยราชวิถี และกองบัญชาการกองทัพบก วันนี้พนักงานสอบสวนนำสำนวนคดี พยานหลักฐาน ไปขอศาลออกหมายจับ





นายวัฒนา ถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีไฟฟ้า จบวิศวไฟฟ้ามา ถนัดเรื่องการประกอบไฟฟ้า จึงเก็บสะสมอุปกรณ์ต่างๆ เอาไว้เพื่อประกอบระเบิด ซึ่งประเด็นดอนดำที่มีอยู่น้อยในระเบิด ไม่ได้มีส่วนสำคัญในการบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น แจกัน และตะปู ถือเป็นส่วนที่จะทำให้ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด



นายวัฒนา ยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุระเบิดทั้งปี 2550 และ 2560 ซึ่งมีแรงจูงใจ คือ ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ เพราะทำให้เศรษฐกิจและประเทศชาติเสียหาย รวมทั้งริดรอนสิทธิเสรีภาพจากประชาชน โดยการก่อเหตุระเบิดแต่ละจุดนั้น เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไม่ได้มุ่งหมายต่อชีวิต จึงใช้เพียงระเบิดแรงดันต่ำ เพื่อต้องการให้รัฐบาลหันหน้าคุยกับประชาชนมากขึ้น โดยตัวเองเคยเข้าร่วมการชุมนุมทั้ง กปปส. และนปช. ส่วนที่พบนาฬิกาที่เป็นภาพอดีตนายกรัฐมนตรีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นความชื่นชอบส่วนบุคคล และยืนยันว่าไม่ได้เกลียดทหารทุกคน แต่เกลียดทหารที่ใช้ประชาชนเป็นฐานในการเข้ามาเป็นรัฐบาล โดยยืนยันอีกว่าไม่มีใครสนับสนุนทั้งงบประมาณและเรื่องอื่นๆ โดยการก่อเหตุแต่ละครั้งใช้งบเพียง 50 บาท นายวัฒนา จึงขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องและขอให้กรณีนี้เป็นกรณีสุดท้ายที่เกิดขึ้น





สำหรับเหตุระเบิดที่นายวัฒนาก่อขึ้น มีมาตั้งแต่ปี 2550 ทั้งเหตุระเบิดที่หน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2550 / ซอยราชวิถี 24 ก่อเหตุเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2550 / หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ก่อเหตุเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2550 และเหตุระเบิดในปีนี้ ที่หน้ากองสลากเก่า ถนนราชดำเนิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 / หน้าโรงละครแห่งชาติ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยเจ้าหน้าที่สามารถคุมตัวนายวัฒนาได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน



จากนั้นตำรวจจะนำตัวนายวัฒนา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ชี้จุดเกิดเหตุต่างๆ เบื้องต้นมีกำหนดว่าจะนำตัวไปทำแผนฯ 5 จุด โดยเริ่มจาก จุดที่ 1. สถานที่ประกอบระเบิดเป็นที่พักบ้านย่านรามอินทรา เขตบางเขน, จุดที่ 2. บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน ที่ก่อเหตุวางระเบิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2550



จุดที่ 3. ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่ก่อเหตุระเบิด เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560, จุดที่ 4. บริเวณ กฟผ. ที่เอาระเบิดที่ประกอบเสร็จขึ้นรถยนต์ไปจอด ทิ้งใว้ที่ กฟผ. บางกรวย, จุดที่ 5 ร้านที่ซื้ออุปกรณ์ย่านบางกรวย แต่ด้วยเวลาจำกัดวันนี้อาจจะทำได้เพียง 3 จุด จากนั้นจะคุมตัวไว้ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) 1 คืน เพื่อนำตัวไปทำแผนต่อในวันรุ่งขึ้น และจะนำตัวนายวัฒนา ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ต่อไป



 



ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข



CR:ภาพสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 



 

ข่าวทั้งหมด

X