หลังจากเมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(บก.สปพ.191) ได้จับกุมผู้ค้ากัญชารายใหญ่โดยพลตำรวจตรี ชัยพร พานิชอัตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เดินทางมาดูผลการปฏิบัติการพร้อมทั้งของกลางทั้งหมด พร้อมกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้จำหน่ายกัญชาและยาเสพติดผ่านทางออนไลน์ที่ยังลักลอบจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่อาศัยช่องทางการจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายแบบออนไลน์ ทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก
ขณะที่ พันตำรวจเอกสำราญ นวลมา รองผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กล่าวว่า หลังชุดสืบสวนของบก.สปพ.191 ทราบมาว่าเครือข่ายของนายอุดมศักดิ์ ตรีภักดิ์ หรือ ป๋าอาร์ม ที่มีพฤติการณ์จำหน่ายกัญชาครั้งละไม่ต่ำกว่า500กิโลกรัม มีลูกค้าทั่วประเทศจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานพลักฐานขยายผลและเข้าจับกุม นางสาวสุวรรณา อบสิน และนางสาวฤทัยรัตน์ โภคา เมื่อช่วงบ่ายนี้ พร้อมของกลางเป็นกัญชาแพ็คบรรจุอยู่ในกล่องไปรษณีย์จำนวน 39 กล่อง ขณะกำลังส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ จากนั้นเจ้าหน้าที่สอบปากคำนางสาวสุวรรณาและนางสาวฤทัยรัตน์ และขยายผลไปอีก2 จุดคือ ห้องพักหรูย่านบางนาและบ้านพักย่านอ่อนนุช สามารถจับกุมนายอุดมศักดิ์ ได้ช่วงกลางดึก นอกจากนี้ ยังควบคุมตัวนางสาวจิตตา ยะรังวงค์ ซึ่งทั้งสองคน ยอมรับว่าเป็นผู้ว่าจ้าง ให้นางสาวสุวรรณา และนางสาวฤทัยรัตน์ เป็นคนส่งกัญชา เจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัวนางสาวจิตตา ได้พร้อมของกลางเป็นกัญชาอีกประมาณ 400 กิโลกรัม เครื่องซีลสูญญากาศ 1 เครื่อง และกล่องพัสดุเปล่าและอุปกรณ์สำหรับตัดแบ่งและแพ็ค ยาเสพติดจำนวน 300 ชุด
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันจําหน่ายกัญชาทางออนไลน์มาประมาณ 2 ปี โดยสั่งซื้อกัญชาทั้งหมดจากประเทศเพื่อนบ้าน และมีเงินหมุนเวียนในบัญชีเดือนละประมาณ 30 -40 ล้านบาท แต่ละเดือนจะขายกัญชาให้กับลูกค้ามากกว่า 500 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงมีการเปลี่ยนบัญชีธนาคารอยู่บ่อยครั้ง ส่วนมากจะใช้บัญชีที่ซื้อมาจากอินเตอร์เน็ต ในราคาเล่มละ 1,500-2,000 บาท เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถยึดทรัพย์ตามพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้หลายรายการ เช่น เงินสด 8,700,000 บาท , ทองคำรวมน้ำหนัก 43บาท , สมุดบัญชีเงินฝากกว่า 6 ล้านบาท,กระเป๋าแบรนเนมจำนวน7ใบ และรายการทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณ 20,000,000 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท5ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย หลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง4คนส่งให้เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลประเวศดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ