โรงเรียนบ้านตรวจ จ.สุรินทร์ ให้นร.มีส่วนร่วม สวมหมวกนิรภัย-จำลองสถานการณ์คิด-วิเคราะห์ลดอุบัติเหตุ

17 มิถุนายน 2560, 16:44น.


การปลูกฝังวินัยทางถนน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุให้กับนักเรียน ในการลงพื้นที่โครงการพัฒนาศักยภาพสื่อด้านอุบัติเหตุทางถนน ช่วงบ่ายนี้ได้ลงพื้นที่ที่โรงเรียนบ้านตรวจ ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีการปลูกฝังการปฏิบัติตามกฎหมาย ด้วยการช่วยกันวิเคราะห์สถานการณ์อุบัติเหตุ รวมถึงให้มีการสแกนบาร์โค้ดที่หมวกกันน็อคนักเรียนทุกครั้ง เมื่อเข้าโรงเรียน





นายปราโมทย์ เพ่งพิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลตรวจ เล่าว่า โรงเรียนจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยทางถนน โดยเห็นว่าเรื่องของอุบัติเหตุเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากในพื้นที่ของโรงเรียนมีความเสี่ยงทั้งด้านถนนหน้าโรงเรียน รวมทั้งการสัญจรมาโรงเรียนของนักเรียน ทั้งรถรับส่ง เดินและขับรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะใช้วิธีการปลูกฝังภายในห้องเรียน ด้วยการจำลองสถานการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงภายในชุมชน นำมาช่วยกันวิเคราะห์หาสาเหตุทั้งคน ยานพาหนะ สถานที่ และถนน หลังจากนั้นจะให้นักเรียน มีส่วนร่วมโดยรับบทบาทสมมติ เป็นตัวละครแต่ละตัวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้น เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบที่แต่ละคนจะได้รับเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยจะทำให้นักเรียนนั้นมีความกลัวและตระหนักในเรื่องการใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้ทางโรงเรียนจะใช้วิธีการประเมินผลผ่านการแสดงความคิดเห็นของนักเรียนแต่ละคน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ถึงความเปลี่ยนแปลงเรื่องของการใช้รถว่ามีมากน้อยเพียงใด





นอกจากนี้ ในเวลาเช้าที่นักเรียนเดินทางมาโรงเรียน ทางโรงเรียนจะจัดแบ่งกลุ่มการเดินทางของนักเรียนทั้งรถรับส่ง เดิน และใช้รถจักรยานยนต์ซึ่งนักเรียนที่ใช้รถจักรยานยนต์เมื่อเข้าสู่ประตูโรงเรียนแล้ว จะพบกับครูประจำวันและคณะกรรมการสภานักเรียน คอยตรวจรายชื่อ โดยจะใช้วิธีการสแกนบาร์โค้ดซึ่งมีติดอยู่ที่หมวกนิรภัยของนักเรียนทุกคน ประกอบด้วยข้อมูลชื่อ เบอร์ติดต่อ ชื่อผู้ปกครอง เพื่อให้เห็นว่าการเดินทางมาโรงเรียน นักเรียนได้สวมใส่หมวกนิรภัย รวมถึงเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่ใดก็ตาม จะสามารถทราบทันทีว่าหมวกนิรภัยใบนั้นเป็นของใคร หรือหากมีการนำหมวกไปทิ้งหรือวางไว้ที่ใดก็สามารถสแกนเพื่อหาเจ้าของได้ทันที





จากการพุดคุยกับนางสาวปนัดดา วุฒิยา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านตรวจ เปิดเผยว่า เริ่มใช้รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางมาโรงเรียนตั้งแต่ชั้นม.4 ซึ่งโรงเรียนจะให้ลงทะเบียนสำหรับนักเรียนที่ต้องนำรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเดินทาง หากวันตรวจแล้วเจอว่าไม่ใส่หมวกกันน็อคมา ก็จะลงโทษตามที่ได้ตกลงกันไว้ รวมถึงยังเคยมีส่วนร่วมในการแสดงบทบาทสมมุติวิเคราะห์การเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน และคิดว่าทั้ง 2 วิธีนี้ยังทำให้รู้ถึงผลเสียหรืออันตรายที่จะเกิดขึ้นหากไม่สวมใส่หมวกกันน็อคแล้วเกิดอุบัติเหตุด้วย





 



ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม



 



 

ข่าวทั้งหมด

X