ติดตั้งCCTVเพิ่มเพื่อความปลอดภัย/รัฐบาลย้ำไม่ยกเลิกประกันสุขภาพแต่ต้องรอบคอบ/ยังไม่พักงานจนท.พศ.เอี่ยวทุจริตเงินทอนวัด

16 มิถุนายน 2560, 18:11น.


สรุปข่าว 19.35 น.



+++พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)  ว่า จากการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสำรวจ  CCTV ทั้งที่เป็นของส่วนราชการและเอกชน เฉพาะที่ฉายเข้าไปในที่สาธารณะ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งผลการสำรวจ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พบว่ามีทั้งสิ้นกว่า 300,000 ตัว  โดยนายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่า ในส่วนของกล้องที่เป็นของส่วนราชการที่ชำรุด จะต้องดำเนินการแก้ไขให้เสร็จโดยเร็ว โดยหัวหน้าส่วนราชการต้องรับผิดชอบ และจะมีติดตั้งเพิ่มอีก 40,000 กว่าตัว เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด    โดยนายกรัฐมนตรีมองว่า กล้อง CCTV เป็นเรื่องความมั่นคง และจะนำเข้าหารือในสภาความมั่นคงด้วย



ที่ประชุมยังได้พิจารณาแผนเชื่อมโยงบูรณาการการการใช้กล้อง CCTV และการบริหารจัดการในภาพรวม โดยกำหนดให้มีการตั้งศูนย์ควบคุมระดับจังหวัด ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ให้ฝ่ายปกครองและตำรวจสามารถทำงานร่วมกันได้ทั่วประเทศ  ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นหน้าที่ของ กอ.รมน.ภาค 4  จะพิจารณา ขณะที่ ส่วนกลางจะมีหน่วยงานตำรวจและกระทรวงมหาดไทยดูแลในภาพรวม  ข้อมูลการจัดเก็บจะเป็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) โดยจะเริ่มเปิดระบบการใช้งานในวันที่ 19 มิถุนายน นี้ ที่ประชุมยังพิจารณาให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น โดยหามาตรการ จูงใจ ด้วยสิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษี และการไฟฟ้า และยังไม่สามรถระบุได้ว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้ดูแลการจัดซื้อ แต่คุณสมบัติของกล้องต้องใกล้เคียงกัน เพื่อให้ข้อมูลสามารถลิงค์ต่อกันได้โดยไม่มีปัญหา



+++ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กวิจารณ์การแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รัฐบาลต้องใช้งบประมาณสูงขึ้นและส่งเสริมให้เกิดความเจ็บป่วยมากขึ้นนั้นว่า รัฐบาลขอยืนยันการแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นการพัฒนาประสิทธิภาพโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่มีจุดอ่อนหลายประการ โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ของโครงการที่ต้องการให้ผู้ป่วยร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพียง 30 บาท เสมือนหนึ่งให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งดูเหมือนเป็นสิ่งที่ดี แต่โรงพยาบาลของรัฐกลับได้รับงบประมาณไม่เพียงพอ ไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในการรักษาพยาบาล ทำให้ขาดทุนหมุนเวียน ส่งผลต่อคุณภาพการให้บริการผู้ป่วย ส่วนเรื่องการอ้างว่าปัจจุบันรัฐบาลอุดหนุนเงินเหมาจ่ายรายหัว ไปให้พื้นที่ที่มีการเจ็บป่วยมาก แต่พื้นที่ที่ประชาชนมีสุขภาพดีเจ็บป่วยน้อยกลับได้รับเงินน้อยนั้น เป็นการกล่าวหารัฐบาลเกินความเป็นจริง เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นหลักเกณฑ์ที่มีมาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งรัฐบาลนี้เห็นว่าเป็นหลักเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรม เพราะทุกพื้นที่ควรได้การดูแลอย่างเท่าเทียมตั้งแต่การป้องกันก่อนเกิดโรค ย้ำว่า การแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพคือ การปรับปรุงโครงการ 30 บาทให้ดีขึ้น และไม่ใช่การยกเลิก



+++ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเรียกคืนเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด 60 ล้านบาท ว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้แจ้งความดำเนินคดีกับข้าราชการสังกัด พศ.ที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 คนแล้ว เป็นข้าราชการ พศ. 4 คน และพลเรือน 4 คน และมีเรื่องต้องรอกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) รายงาน  นอกจากนั้น พศ. ได้แก้ไขให้ทางวัดไม่สามารถของบประมาณจากทาง พศ.ได้โดยตรง ต้องขอผ่านทาง พศ.จังหวัด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมก่อนส่งมายัง พศ.ส่วนกลาง และเมื่อมีงบประมาณลงไปต้องผ่านไปยัง พศ.จังหวัดอีกครั้ง ซึ่งจะมีคณะกรรมการพิจารณา ตรงนี้น่าจะรัดกุมรอบคอบเพียงพอแล้ว แต่หากไม่เพียงพออย่างไรค่อยมาว่ากันอีกครึ่งหนึ่ง



+++ด้าน พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวเรื่องเดียวกันนี้ ว่า  คดีนี้มีเจ้าหน้าที่ พศ.เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมด 4 ราย โดยเป็นอดีตข้าราชการ 2 ราย  และเป็นข้าราชการ 2 ราย ซึ่งในขั้นนี้ยังไม่มีการสั่งพักงาน  เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน ที่กำหนดไว้  ขณะนี้ยังอยู่ในชั้นตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อหามูลความผิด ก่อนคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ตั้งแต่เกิดการทุจริตขึ้น นอกเหนือจาก 12 วัดแล้ว ยังมีพระสงฆ์วัดอื่นและฆราวาสมาให้ข้อมูลถึงรูปแบบการกระทำความผิด ซึ่งรูปแบบการทุจริตในอดีตที่ผ่านมา ไม่มีความซับซ้อนและมีพื้นฐานการทุจริตที่คล้ายกัน  แต่มีวิธีการตัดต่อในรายละเอียดไม่เหมือนกัน



+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ร่วมกับ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงความคืบหน้ากรณีการปราบปรามการลักลอบนำเข้ารถยนต์และหลีกเลี่ยงชำระภาษีศุลกากร เบื้องต้น ตามเอกสารหลักฐานของดีเอสไอ ประกอบด้วยรถยนต์ยี่ห้อลัมโบร์กินี จำนวน 31 คัน และรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส จำนวน 1 คัน ซึ่งกรมศุลกากรได้จัดส่งข้อมูลบัญชีรายละเอียด การคำนวณภาษีรถยนต์กลับมายังดีเอสไอแล้ว จำนวน 30 คัน พบว่ามีมูลค่าภาษีขาด รวมทั้งสิ้นประมาณ 650 ล้านบาท ส่วนอีก 2 คัน เป็นรถลัมโบร์กินี พบว่าเป็นรถเอกสารนำเข้าหรือใบอินวอยซ์ไม่ถูกต้อง 1 คัน และเป็นรถจดประกอบ 1 คัน ซึ่งกรมศุลกากรกำลังตรวจประเมินภาษีที่ขาดไปอยู่ ขณะนี้กรมขนส่งทางบกกำลังตรวจสอบอยู่ ที่ผ่านมาขบวนการรถหรู มีการนำรถลัมโบร์กินีไปจดกับกรมขนส่งบก ให้เป็นรถจดประกอบ ไม่ได้นำเข้าทั้งคัน โดยมีการเสียภาษีโครงรถประมาณ 300,000 บาท เครื่องยนต์ 30,000 บาท ซึ่งราคาเครื่องยนต์ถูกกว่ารถจักรยานยนต์อีก รวมแล้วเสียภาษีทั้งคันประมาณ 900,000 บาท



+++หลังจากนี้จะส่งรถอีกจำนวนกว่า 300 คันให้กรมศุลกากรตรวจสอบภาษีอีก ซึ่งจำนวนดังกล่าวรวมอยู่ในกลุ่มรถที่ยัดไว้ 122 คันจากโชว์รูมต่างๆและรถที่อยู่ในความครอบครองแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีรถหรู กับผู้ประกอบการ และบริษัทที่นำเข้า ส่วนผู้ครอบครอง เรามองว่าอาจเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากเค้าไม่รู้ว่าซื้อรถที่ไม่ถูกกฎหมายมา ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา ไม่ยอมจ่ายค่าปรับในการเลี่ยงภาษีรถหรูนั้น ทั้งนี้กรมศุลกากรก็มีมาตรการทั้งจำและปรับคอยดำเนินการอยู่แล้ว



+++กรมเจ้าท่าประกาศปรับลดค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา-คลองแสนแสบ 1 บาท เรือข้ามฟาก 0.50 บาท มีผล 21 มิ.ย.นี้ หลังราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง10วัน  ราคาใหม่เป็นดังนี้ เรือด่วนเจ้าพระยา ประเภทเรือประจำทาง อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 8-10-12 บาท/คน (ตามระยะ) ส่วนเรือโดยสารในคลองแสนแสบ อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 8-10-12-14-16-18 บาท/คน (ตามระยะ)    สำหรับเรือโดยสารข้ามฟาก เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 1 (นนทบุรี-บางศรีเมือง, ท่าช้าง-วังหลัง, ท่าช้าง-วัดระฆัง, วังหลัง-ท่าพระจันทร์เหนือ, วังหลัง-มหาราช และราชวงศ์-ดินแดง ) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 3  บาท/คน  เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 2 (โอเรียลเต็ล-วัดสุวรรณ และ ท่าเตียน-วัดอรุณ ) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 3.50 บาท/คน เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 3 (สี่พระยา-คลองสาน ) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 4 บาท/คน  เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 4 ( พระสมุทรเจดีย์-วิบูลย์ศรี และ สะพานตากสิน(สาทร) ฝั่งพระนคร-ฝั่งธนบุรี ) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 5 บาท/คน เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 5 (ปากคลองตลาด-วัดกัลยาณมิตร-วัดกุฎีจีน) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 5.50 บาท/คน).



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มส่งออกได้รับแรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงิน ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ปิดพุ่งขึ้น 111.44 จุด แตะที่ 19,943.26 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนได้เข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลงไปกว่า 300 จุดเมื่อวานนี้ เพิ่มขึ้น 61.15 จุด ปิดวันนี้ที่ 25,626.49 จุด



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดตลาดปรับตัวขึ้น 3.05 จุด อยู่ที่ 1,576.58 มูลค่าการซื้อขาย 41,218.57 ล้านบาท



+++คนร้ายวัย 22 ปีรายหนึ่งซึ่งมีนามสกุลว่าซู ที่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดที่บริเวณประตูทางเข้าของโรงเรียนชั้นอนุบาลกวงซิน เมืองเฟิ่งเซียน มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของจีนเมื่อบ่ายวานนี้ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เหตุระเบิดครั้งนี้ทำให้ผู้ปกครองที่ไปรอรับบุตรหลานหลังเลิกเรียนบ่ายวานนี้เสียชีวิต 8 ศพ นักเรียนและครูทุกคนปลอดภัย และผู้ปกครองอีก 66 คนบาดเจ็บ ในจำนวนนี้สาหัส 8 ราย จากการตรวจห้องพักของคนร้าย ตำรวจตรวจพบวัสดุที่ใช้ทำระเบิดในห้องพักและพบว่ามีการเขียนคำว่าตายที่ผนังห้องของเขาตำรวจสอบสวนคดีนี้เป็นคดีอาญาทั่วไป คนร้ายรายนี้เคยมีปัญหาด้านสุขภาพ ออกจากโรงเรียนกลางคันเพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว 

ข่าวทั้งหมด

X