เดินหน้าแล้ว!รฟม.สายสีชมพู-สีเหลือง รองนายกฯสมคิดมั่นใจโครงการสำเร็จ ไทยจะเป็นศ.กลางอาเซียน

16 มิถุนายน 2560, 15:47น.


การเดินหน้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานในพิธี กล่าวว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้โครงการนี้ผ่านไปได้ หาก 2 โครงการนี้สำเร็จ จะได้รับความเชื่อมั่นจากทุกประเทศทั่วโลก โดยประเทศไทยจะต้องก้าวเข้าสู่ศูนย์กลางแห่งอาเซียนให้ได้  โดยโครงการรถไฟฟ้าที่รัฐบาลเร่งดำเนินการอยู่นี้ เป็นโครงการที่ติดค้างมานานกว่า 10 ปี และภายในปีนี้ จะต้องผลักดันให้โครงการรถไฟฟ้าอีก 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้, รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกและรถไฟฟ้าสายสีแดง ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี





ด้านนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รักษาการแทนผู้ว่าการ รฟม. ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง เป็นโครงการนำร่องตามมาตรการ PPP Fast Track ของรัฐบาล ในการเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุน โดยทั้ง 2 โครงการเป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐจะลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และสนับสนุนวงเงินลงทุนบางส่วน และภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธา ค่างานระบบและขบวนรถไฟฟ้า และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ รวมทั้งให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง เป็นระยะเวลาตามสัญญา 33 ปี 3 เดือน แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างโครงการ พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า ระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถ ระยะเวลา 30 ปี



สำหรับในวันนี้ เป็นการลงนามในสัญญาสัมปทาน, สัญญาว่าจ้างก่อสร้างงานโยธา, สัญญาจัดหาระบบรถไฟฟ้า และสัญญาเงินกู้  ด้านนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา 2 บริษัท เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู คือ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง คือ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ซึ่งในสัญญา บริษัทร่วมทุนจะได้รับสิทธิในการบริหารจัดการเดินรถ จัดเก็บรายได้ค่าโดยสารและค่าที่จอดรถ รวมถึงรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ด้วย  สำหรับ บริษัทร่วมทุนทั้ง 2 บริษัท จะมอบหมายให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้เดินรถและซ่อมบำรุง และว่าจ้างบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อสร้างงานโยธา และว่าจ้าง บริษัท บอมบาดิเอร์ ผลิตและติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล  เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน จากพื้นที่รอบนอกกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทาง เข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าสายหลัก เพื่อเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างสะดวก รวดเร็ว และบรรเทาปัญหาจราจรในพื้นที่โครงการทั้งสองสาย





นอกจากนี้ผู้โดยสารสามารถใช้บัตรโดยสารใบเดียวกันเดินทาง ทั้งบัตรประเภทเที่ยวเดียว และบัตรเติมเงิน (บัตรแมงมุม) โดยสามารถเดินทางได้ทั้ง 3 ระบบ คือ สายสีเขียว สายสีชมพู และสายสีเหลือง โดยจะออกแบบให้เป็นลักษณะการเชื่อมต่อแบบ Paid to Paid ที่ผู้โดยสารไม่ต้องออกนอกระบบ เพียงแตะบัตรเข้าและออกเพียงครั้งเดียว จะช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ในการเดินทางกับผู้โดยสารมากขึ้น



สำหรับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร 30 สถานี รอบวงเงินการลงทุน 46,643 ล้านบาท ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีระยะทางประมาณ 30.4 กิโลเมตร 23 สถานี กรอบวงเงินการลงทุน 45,797 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการเป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบ คล่อมราง (Straddle Monorail) เป็นโครงสร้างยกระดับตลอดสาย มีทางเดินสำหรับการอพยพกรณีเหตุฉุกเฉินตลอดทาง แนวเส้นทางเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง ที่จะกระจายความหนาแน่นของกิจกรรมเมือง และเชื่อมโยงการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนหลัก เป็นโครงข่ายอย่างเป็นระบบ และคาดว่าทั้ง 2 โครงการ จะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2563



ข่าวทั้งหมด

X