*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
++++หลังคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ฉบับที่ 110/2557 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาของคสช.ด้านโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมเพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ และเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หัวหน้าคสช.จึงให้มีคำสั่ง่ให้มีคณะกรรมการที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ด้านโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม โดยมี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประธานกรรมการ
+++รองรับ คสช.เห็นชอบ ไฟเขียวแผนยุทธศาสตร์คมนาคม รถไฟทางคู่ 8 เส้นทาง วงเงินรวมกว่า 8.6 แสนล้านบาท ใช้รางขนาดเดิม 1 เมตร 6 เส้นทางรวม 1.2 แสนล้าน ทั้ง 6 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางชุมทาง จิระ - ขอนแก่น วงเงิน 26,007 ล้านบาท,เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน 17,293 ล้านบาท ,เส้นทางนครปฐม - หัวหิน วงเงิน 20,038 ล้านบาท ,เส้นทางมาบกะเบา - นครราชสีมา วงเงิน29,855 ล้านบาท,เส้นทางลพบุรี - ปากน้ำโพ วงเงิน 24,842 ล้านบาท และเส้นทางหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 9,437 ล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 และจะสามารถแก้ปัญหาการเดินรถไฟที่คับคั่งในปัจจุบันเนื่องจากจะสามารถเพิ่มจำนวนการเดินรถได้จาก 268 เที่ยวต่อวัน เป็น 800 เที่ยวต่อวัน
+++ส่วนอีก 2 เส้นทาง คือ โครงการวางมาตรฐานการเดินรถทางรางใหม่สำหรับอนาคต โดยสร้างรถไฟทางคู่ขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางหนองคาย - นครราชสีมา - ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 737 กิโลเมตร วงเงิน 392,570 ล้านบาท และเส้นทางเชียงของ - เด่นชัย - บ้านภาชี ระยะทาง 655 กิโลเมตร วงเงิน 348,890 ล้านบาท ทั้งสองโครงการนี้จะใช้งานรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเป็นการรองรับการเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟที่จะเชื่อมต่อกับสปป.ลาวและจีนในอนาคต
+++ส่วนโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 10 สายซึ่งเป็นโครงการเพื่อแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่ประชุมคสช.ให้ความเห็นชอบให้ดำเนินการต่อไปตามแผนทั้งหมด โดยกระทรวงคมนาคมได้มีการชี้แจงว่าขณะนี้ในบางโครงการมีการดำเนินการไปใกล้แล้วเสร็จ เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ ขณะนี้งานโยธาคืบหน้ากว่า 94% และคาดว่าจะสามารถทดรองเดินรถได้ในปี 2558 และเริ่มเดินรถเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2559 ขณะที่ตามแผนรถไฟฟ้าทั้ง 10 เส้นทางจะยังคงเปิดให้บริการได้ในปี 2562 รวมระยะทาง 410 กิโลเมตร
+++นอกจากนั้นยังจะมีการเร่งปรับปรุงระบบถนนเชื่อมโยงประตูการค้าของประเทศ ในพื้นที่ที่มีความสำคัญกับการค้าชายแดน และกำลังจะมีการพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เช่น ทางหลวง ตราด - หาดเล็ก,ตาก - แม่สอด, ถนนเลี่ยงเมืองอรัญประเทศ-สระแก้ว เป็นต้น ขณะที่ระบบถนนเชื่อมเมืองหลักจะมีการเดินหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายพัทยา - มาบตาพุด ซึ่งได้รับงบประมาณ ในการเวนคืนที่ดินในปีงบประมาณ 2557 - 2558 แล้ว
+++ที่ประชุมฯยังมีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานในการกำหนดวงเงินในโครงการและแผนงานต่างๆรวมทั้งกำหนดแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ลงทุนในโครงการตามแผนงานและยุทธศาสตร์การคมนาคมโดยกำหนดระยะเวลาในการทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนที่จะรายงานให้ที่ประชุม คสช.รับทราบเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป
+++โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2557 มีปริมาณการขาย 440,911 คันลดลง ร้อนบะ40.5 พร้อมปรับประมาณการตลาดรถยนต์ไทยปี 2557 เป็น 920,000 คัน ลดลง ร้อยละ 30.9
ร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นประธานในการแถลงข่าวยอดการจำหน่ายครึ่งปีของ โตโยต้า เปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายลดลง เนื่องมาจากในปีนี้ตลาดรถยนต์ของไทยต้องเจอกับปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงต้นปี โดยเฉพาะกลุ่มภาคการเกษตรที่มีปัญหาราคาข้าวและพืชผลทางการเกษตรทำให้ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งรวมถึงรถกระบะ ลดลงอย่างมาก ขณะที่ตลาดรถยต์นั่งเองก็ได้รับผลกระทบสองทาง ทางแรกคือจากการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่นิ่ง ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยคือการที่โครงการรถยนต์คันแรกสิ้นสุดอายุลงแคมเปญต่างๆ ก็หมดลง ทำให้ยอดการสั่งจองลดลงไปเข้าสู่สภาวะปกติของตลาดรถยนต์ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ดำเนินกิจการในประเทศไทย มากกว่า 50 ปี เราเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และยังคงยืนยันว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและศูนย์กลางแห่งการวิจัยและพัฒนาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโตโยต้า เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพการผลิตที่แข็งแกร่งในทุกด้าน
+++สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือน มิ.ย. 2557 และประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ น่าสนใจว่า หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เข้าบริหารประเทศเมื่อวันที่22 พ.ค.2557 จะส่งผลให้เศรษฐกิจ เดือน มิ.ย. หรืออีก 1 เดือนถัดมาเป็นอย่างไรบ้าง แถลงเวลา 13.30 น. ที่ คสช. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม แถลง"ดัชนีเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือน มิ.ย. 2557" โดยนายวิฑูรย์ สิมะโชคดีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่กระทรวงอุตสาหกรรม
+++มีรายงานข่าว กระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า ภายในสัปดาห์นี้ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จะนำรายชื่อการแต่งตั้งข้าราชการประเภทบริหารระดับสูง เช่นรองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ตรวจราชการกระทรวงและผู้ว่าฯ เสนอต่อพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ฐานะหัวหน้า คสช. โดยในปี 2557 มีข้าราชการเกษียณอายุราชการในตำแหน่งดังกล่าว 20 ราย และมีข้าราชการระดับ 10 คือม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ออกไปกินตำแหน่งซี 11 ในตำแหน่งปลัดสำนักนายกฯ และเลขาธิการ ศอ.บต. จึงมีตำแหน่งในระดับ 10 ที่ว่างเพิ่มขึ้นอีก 2 ตำแหน่ง ดังนั้น นายวิบูลย์จะนำเสนอรายชื่อ 22 ตำแหน่งดังกล่าวกับ หัวหน้าคสช.เพื่อพิจารณา
+++วันนี้ศาลทหารนัดฟังคำสั่งฟ้อง นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งเรียก ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา116 จากกรณีฝ่าฝืนกฎอัยการศึกและยุงยง ปลุกปั่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เวลา 10.00 น. ส่วนเมื่อวานนี้ พนักงานอัยการศาลทหารได้ทำสำนวนส่งฟ้องศาลทหารกรณีนายสมบัติ ผู้ต้องหาคดีการเมือง หลังครบกำหนดฝากขังผลัดสุดท้าย ฐานกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 โดยทนายได้ยื่นขอประกันตัว 6 แสนบาทและศาลอนุญาตให้ประกันตัว มีเงื่อนไข ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง.ห้ามยุยงปลุกปั่น และ 3.ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทั้งนี้ กระบวนการต่อไป นายสมบัติต้องรอหนังสือเรียกตัวจากศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมพระธรรมนูญชี้แจงว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
+++ฆ่าล้างหนี้ เผานั่งยาง ที่จ.ตรังร.ต.อ.พิเชษฐ์ ซูซั่น พนักงานสอบสวน สภ.บ้านโคกยาง จ.ตรัง รับแจ้งเหตุ พบผู้ถูกฆ่าเผานั่งยาง ภายในโรงเรือนเก่าของบ้านเลขที่ 26 หมู่ 1 ต.โคกยาง อ.กันตัง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่เกิดเหตุพบศพสภาพเผานั่งยางจนเหลือแต่เศษกระดูก ทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.สุปรียา สังสนิท ซึ่งหายไปจากบ้านพักตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. ญาติได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.บ้านคลองเต็ง อ.เมืองตรัง โดยก่อนที่จะหายตัวไปได้โทรศัพท์บอกกับญาติว่า ไปอยู่กับ นายยิ่งศักดิ์ คงผล อายุ 35 ปี แฟนหนุ่มที่ยอมเปิดปากสารภาพทั้งน้ำตา พร้อมกับยกมือไหว้ด้วยความสำนึกผิด ว่า เถ้ากระดูกที่พบเป็นศพของ น.ส สุปรียา แฟนสาวจริง ซึ่งตนได้ลงมือทุบศีรษะ และเผานั่งยางที่หน้าบ้าน เมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค. ซึ่งเป็นคืนที่ผู้ตายเดินทางมาหา ส่วนที่ทำไปเพราะโกรธแค้นที่ผู้ตายมาทวงเงินเกือบ 3 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตำรวจไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะก่อเหตุเพียงคนเดียว และน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกอย่างน้อย 1-2 คน เนื่องจากพบมีร่องรอยการเคลื่อนย้ายขี้เถ้าจากจุดเกิดเหตุไปทิ้งที่อื่นด้วย เหมือนมีการเตรียมการไว้เป็นอย่างดี
+++คนไทยติดแชตงอมแงม ถึงขั้นซื้อสแตนดี้ติดมือถือไว้กับพวงมาลัยรถ "ขับไปแชตไป" เริ่มแพร่หลายในโลกโซเชียล พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดถือว่าเป็นการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถซึ่งยึดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8)พ.ศ. 2551 ตามมาตรา 43 ห้ามมิให้ผู้ขับรถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถเว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมีอุปกรณ์เสริมสำหรับสนทนา (สมอลล์ทอล์ก) โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์แต่การใช้สแตนดี้ดังกล่าวถือว่าเป็นการรบกวนสมาธิในการขับรถอย่างมาก เนื่องจากต้องละสายตาจากท้องถนนและการพิมพ์ข้อความก็ต้องละมือข้างหนึ่งไปจากการควบคุมพวงมาลัยรถซึ่งมีความผิดตามกฎหมายมีโทษปรับไม่เกิน 400-1,000 บาท แต่ถ้าใช้สแตนดี้มือถือหากเปิดลำโพงเสียงเพื่อสนทนาเท่านั้นไม่ถือว่าเป็นความผิด ซึ่งจะคล้ายกับการใช้สมอลล์ทอล์ก หากตำรวจดำเนินการจับกุมแล้วผู้กระทำผิดไม่ยอมรับจะต้องมีการนำเรื่องไปพิจารณาบนชั้นศาลเพื่อดูหลักฐานพยานว่ามีเจตนาเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถหรือไม่