ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟไหม้อพาร์ทเม้นท์ในลอนดอนเพิ่มเป็น12ศพ /เฟดขึ้นดบ.ตามคาด0.25%/สส.สหรัฐถูกยิงระหว่างชมการซ้อมเบสบอล

15 มิถุนายน 2560, 05:51น.


*ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.*



++++เหตุไฟไหม้อาคารพักอาศัยชื่อเกลนเฟล ทาวเวอร์สูง 27 ชั้นในเขตเคนซิงตัน ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน เมื่อเวลา 01.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น บีบีซี รายงานอ้างตำรวจอังกฤษว่ามีคนเสียชีวิตแล้ว 12  ศพ คาดว่าตัวเลขอาจจะเพิ่มขึ้นและมีผู้บาดเจ็บกว่า 60 คนที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่ามีหลายคนติดอยู่ในอาคาร ร้องขอความช่วยเหลือและช่วยให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือลูกๆของพวกเขาให้ปลอดภัย ทีมดับเพลิงสามารถช่วยเหลือผู้พักอาศัยหลายคนได้โดยปลอดภัย แต่นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนกล่าวว่ายังมีคนอีกหลายคนที่ยังหาตัวไม่พบ ขณะนี้อาคารส่วนที่ถูกไฟไหม้เสี่ยงถล่มลงมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 200 คน พร้อมรถดับเพลิง 40 คันปฏิบัติงานในจุดเกิดเหตุต่อเนื่องมาหลายชั่วโมง  นางแววตา ศุภฤกษานนท์ ชาวไทยซึ่งพักอาศัยบนชั้นที่ 10 อาคารเกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ อาคารสูง 24 ชั้น เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีไทยว่าเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นตอนเวลาประมาณ 01.00ของวันพุธ14มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เธอ ลูกชาย น้องสาวและหลาน รวมแล้ว 5 คน ตัดสินใจวิ่งหนีออกมาตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. และไม่สามารถนำสิ่งของใด ๆ ติดตัวมาได้เลย เกิดเหตุยังไม่หลับ และนั่งดูโทรทัศน์อยู่ แต่ได้ยินเสียงเอะอะภายนอก จึงเปิดประตูแฟลตที่อาศัยอยู่มานาน 31 ปีและมีทีพักอาศัยราว 120 ห้อง ออกไปดู และพบว่ากำลังเกิดเพลิงไหม้ จึงได้ให้น้องสาววัย 50 ปีเศษ โทรศัพท์ไปแจ้ง 999 และได้รับการบอกกล่าวจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่ให้ออกไปจากห้องพัก ในรายงานของบีบีซี ระบต่อว่านางแววตาเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้นำเธอและครอบครัวออกมาจากตึก โดยวิ่งลงมาจากบันไดหนีไฟซึ่งมีสภาพมืดมิด เจ้าหน้าที่จับมือทุกคนไม่ปล่อย จนกว่าจะได้รับความช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย สภาพตอนนั้นเหมือนอยู่ในถ้ำ มันมืดมิดไปหมด เจ้าหน้าที่เขาใส่หน้ากากกันควันไฟ เราใช้ผ้าขนหนูคลุมปิดปากปิดจมูกออกมา ควันเข้าจมูกหายใจไม่ออก และอาเจียน พี่โดนไฟลวกที่แขนนิดหน่อย เสื้อผ้าทะลุเพราะสะเก็ดไฟ แต่รอดมาก็บุญแล้ว



+++ราคาน้ำมันในวันพุธ(7มิ.ย.) ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน      สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.73 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายนปีก่อน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.00 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน หรือหนึ่งวันก่อนโอเปกตกลงลดกำลังผลิต หลังพบ คลังเบนซินสำรองของประเทศ เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดหมายไว้ว่าน่าจะลดลง 457,000 บาร์เรล



+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(14มิ.ย.) ดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุดรอบใหม่   ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 46.09 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,374.56 จุด   เป็นไปตามคาดหมาย  ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ปรับขึ้นอันตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 สู่ระดับ 1.00-1.25% พร้อมส่งสัญญาณอาจปรับขึ้นอีกครั้งในปีนี้ แม้เมื่อข้อมูลมากมายเมื่อเร็วๆนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอ่อนแอลง   เฟดอ้างเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่ยังคงเข้มแข็งขึ้น สำหรับปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามนักลงทุนบางส่วนมีความกังวลกับท่าทีแข็งกร้าวของเฟด และข้อวิตกดังกล่าวสะท้อนให้เห็นในความเคลื่อนไหวของหุ้นภาคเทคโนโลยี  ส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ปรับตัวลดลง 12.40 เหรียญต่อออนซ์ อยู่ที่ 1,263.50 เหรียญสหรัฐ



+++บีบีซี รายงานอ้างสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯว่า นายสตีฟ สกาลิส วิปเสียงข้างมากของสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ พร้อมตำรวจที่ทำหน้าที่อารักขาอีก 2 คน รวม 3 คน ถูกคนร้ายยิงระหว่างการฝึกซ้อมของทีมเบสบอลพรรครีพับลิกันที่สนามกีฬาวายเอ็มซีเอในเมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนียเมื่อเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นเพื่อลงแข่งขันประจำปีกับส.ส.พรรคเดโมแครต ที่สนามเนชั่นแนลปาร์ค ในวันนี้  ด้านนายไมค์ ลี สว.พรรครีพับลิกันจากรัฐยูทาห์ ส่งข้อความถึงสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ว่านายสกาลิสถูกยิงบริเวณสะโพก และอาการปลอดภัยแล้ว เพิ่มเติมว่ามีผู้ใช้เข็มขัดช่วยห้ามเลือดของนายสกาลิส ตำรวจเพิ่มเติมว่ามือปืนใช้อาวุธปืนยาวและถูกตำรวจที่อารักขาส.ส.ยิงตอบโต้ทำให้มือปืนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คนร้ายเป็นคนผิวขาว วัยกลางคน รูปร่างค่อนข้างท้วม



+++ด้านนายฌอง สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวทวีตข้อความว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ทราบเรื่องแล้ว ผู้นำสหรัฐฯฝากความคิดถึงและอวยพรให้ส.ส.สกาลิส และตำรวจที่ทำหน้าที่อารักขาให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว ด้านนายโม บรูคส์ ส.ส.พรรครีพับลิกันจากรัฐอลาบามา บอกกับซีเอ็นเอ็นว่าเขานั่งชมอยู่ในแถวที่ 3 ขณะที่นายสกาลิสที่ถูกยิงนั่งชมอยู่ในแถวที่ 2 ทุกคนในสนามแตกตื่นหลังมีเสียงปืนดังขึ้น 50-100 นัด



+++นายเจฟฟ์ เซสชั่นส์ อัยการสูงสุดของสหรัฐฯปฏิเสธว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องการสมคบระหว่างทีมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกับรัฐบาลรัสเซีย ตามที่ถูกกล่าวหา การชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯเมื่อวาน นายเซสชั่นส์ กล่าวถึงข้อกล่าวหานั้นว่าเป็นการโกหกหน้าด้านๆและน่ารังเกียจ ก่อนหน้านี้นายเซสชั่นส์ทำหน้าที่ที่ปรึกษาทีมรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์เขาถอนตัวออกจากทีมสอบสวนเรื่องการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯของรัสเซียหลังถูกวิจารณ์ว่าปกปิดข้อมูลเรื่องการติดต่อพูดคุยกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ นายเซสชั่นส์ระบุเพียงว่าการเข้ามาก้าวก่ายกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯของรัสเซียเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ นอกจากนั้น ยังยอมรับต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯว่าเขาได้พบปะกับเอกอัครราชทูตรัสเซีย 2 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว คือระหว่างการจัดประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันในรัฐโอไฮโอและที่อาคารสภาคองเกรสในกรุงวอชิงตัน เขาได้หยิบยกประเด็นเรื่องปัญหาวิกฤติในยูเครนเพื่อพูดคุยกับเอกอัครราชทูตรัสเซีย แต่เขาจำไม่ได้ว่ามีประเด็นอื่นๆเรื่องใดบ้างที่มีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกับเอกอัครราชทูตรัสเซีย แต่นายเซสชั่นส์ปฏิเสธรายงานของสื่อที่ระบุว่าเขาได้พบปะกับเอกอัครราชทูตรัสเซียที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งช่วงนั้นนายทรัมป์แถลงนโยบายเกี่ยวกับการต่างประเทศ การไต่สวนครั้งนี้มีขึ้นหลังการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผอ.เอฟบีไอ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนายโคมีย์ พาดพิงถึงนายเซสชั่นว่าติดต่อพูดคุยกับรัฐบาลรัสเซียหลายครั้งเมื่อปีที่แล้ว นายโคมีย์บอกกับที่ประชุมฯว่านายทรัมป์สั่งปลดเขาเพื่อทำลายกระบวนการสอบสวนกรณีรัสเซียเข้ามาก้าวก่ายกับการเลือกตั้งของสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว



+++กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ จะพบกับเจ้าหน้าที่ของยุโรปในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการของยุโรปที่จะสนับสนุนมาตรการของสหรัฐฯ ที่ต้องการขยายข้อบังคับห้ามนำแล็ปท็อปขึ้นเครื่องบินในเที่ยวบินจากสนามบิน 10 แห่งในตะวันออกกลาง ซึ่งโฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเปิดเผยว่า ประเด็นที่จะมีการหารือคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับผู้โดยสารและมาตรการป้องกัน โดยเมื่อสัปดาห์ก่อคณะกรรมาธิการสภาคองเกรสกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มเติมสนามบิน 71 แห่งในยุโรป แอฟริกาและตะวันออกกลาง ด้านอุตสาหกรรมการบินยุโรป เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบและป้องกันวัตถุระเบิด การเพิ่มเจ้าหน้าที่ และเพิ่มสุนัขตรวจการณ์  สหรัฐฯ ออกมาตรการห้ามนำแล็ปท็อปขึ้นเครื่องบินเมื่อเดือนมีนาคม โดยเน้นไปที่สนามบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และตุรกี ท่ามกลางความกังวลว่าจะมีการลักลอบซุกซ่อน หรือดัดแปลงวัตถุระเบิดไว้ในแล็ปท็อปที่นำขึ้นเครื่องบิน ต่อมาสหราชอาณจักรก็ออกมาตรการห้ามนำแล็ปท็อปขึ้นเครื่องบินเช่นเดียวกัน

ข่าวทั้งหมด

X