*ตรวจความพร้อมสภา รับสนช./เขมรยืนยันไม่ให้ฝ่ายต่อต้านคสช.เคลื่อนไหว/กรมสวัสดิการฯประเมินก่อน พ่อเลี้ยงน้องกอหญ้าได้หรือไม่*

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.

++++การเตรียมพร้อมรอรับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช. ที่คาดว่าจะมีการประกาศมาในเร็ว ๆ นี้ 200 รายชื่อจากที่กำหนดไว้ 220 รายชื่อ วันที่ 30 ก.ค. เวลา 9.50 น. ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 3 นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช. และหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ และคณะ เข้าตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมสนับสนุนสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฎิรูปแห่งชาติ คาดว่า จะนำขึ้นทูลเกล้าฯในช่วงวันที่  31 ก.ค.- 3 ส.ค.นี้

+++ก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.  ชี้แจงการทำงานของ คสช. ว่ากำลังเข้าสู่ระยะที่ 2 ของโรดแม็พ คือการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อสรรหานายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยเชื่อว่าจะมีรัฐมนตรีเข้าบริหารประเทศในเดือน ก.ย.นี้อย่างแน่นอน พร้อมระบุว่า งานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมรวมถึงงานด้านความมั่นคงถือว่ามีความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้ โดย คสช. จะต้องศึกษารายละเอียดของรัฐธรรมนูญชั่วคราวให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ ในการวางกรอบแนวทางในการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป พร้อมสั่งการให้แต่ละส่วนงานของ คสช. สรุปประเมินผลการดำเนินงานทุกรอบ 3 เดือน เพื่อเตรียมการบูรณาการประเทศทุกด้านในระยะยาวต่อไปด้วย

+++ส่วนการพิจารณาคัดสรรข้าราชการในแต่ละกระทรวงในช่วงนี้  ขอให้แต่ละกระทรวงอย่ากังวล ขอให้ส่งเข้ามาให้พิจารณาตามขั้นตอน หลังจากนั้นจะให้ทางคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งหัวหน้า คสช. ยืนยันจะทำด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้มีการติดตามเร่งรัดช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนผ่าน  คสช. กว่า 20,000 เรื่อง โดยล่าสุด คสช. ได้แก้ไขให้พี่น้องประชาชนไปแล้วกว่า 10,000 เรื่อง เหลืออีกเพียง 2,000-3,000 เรื่องก็จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้พร้อมยืนยัน คสช. ใช้หลักในการแก้ไขปัญหาด้วยเหตุและผลเพื่อบรรเทาผลกระทบ

+++การเดินทางเยือนไทยของ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกัมพูชา ที่ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์  โดยหัวหน้าคสช.ได้กล่าวขอบคุณที่ทางกัมพูชาอภัยโทษและส่งตัวนายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ กลับประเทศไทย ขณะที่ พล.อ.เตีย บันห์ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ ไม่ได้มีการหารือเรื่องเขาพระวิหาร  เป็นเรื่องของอนาคตที่คงจะได้มีโอกาสหารือร่วมกันในวันข้างหน้าได้หารือประเด็นหลักเรื่องแรงงานกัมพูชา โดยกัมพูชามุ่งหวังให้แรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานในประเทศไทยตามการจัดระเบียบของ คสช.พร้อมยืนยันกับ คสช. ว่ากัมพูชาจะไม่ให้กลุ่มต่อต้าน คสช. อยู่ในประเทศกัมพูชา พร้อมหัวหน้า คสช. ไปเยือนกัมพูชาหรือไม่

+++ส่วนการดำเนินคดีทัวร์นกขมิ้นของ อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพวกซึ่งเป็นรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย นายพิชิต ชื่นบาน คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์พร้อมชี้แจง ซึ่ง กกต. มีหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา แต่หนังสือมาถึงก่อน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปต่างประเทศเพียง 1 วัน และเมื่อดูจากเรื่องที่กล่าวหาก็จะต้องตรวจสอบพยานบุคคลและพยานเอกสารจำนวนมาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงทำเรื่องขอเลื่อนการยื่นเอกสารออกไป 15 วัน หลังจากที่กลับมาจากการเดินทางไปต่างประเทศ  คือ 15 วัน นับจากวันที่ 10 ส.ค. ซึ่ง กกต. ก็ได้อนุมัติแล้ว  ข่าวที่ ออกมา ขอให้ กกต. อย่าด่วนชี้นำความผิดจนนำไปสู่การโยงว่าต้องไปยุบพรรค เพราะต้องทำความเข้าใจว่าฝ่ายบริหารกับฝ่ายการเมืองทำงานแยกกัน และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีหลักฐานว่าไม่ได้ใช้เงิน และเจ้าหน้าที่ของรัฐไปทัวร์นกขมิ้นทั้งไม่มีข้อเท็จจริงใด ๆ ชี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปหาเสียงหรือไปกล่าวในเชิงหาเสียงที่จังหวัดใดเลย

+++นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงผล การเชิญตัวแทนสถาบันการเงินมาหารือ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ตามประกาศระเบียบ ป.ป.ช. ฉบับใหม่ โดยขอให้สถาบันการเงินรายงาน การทำธุรกรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการให้ ป.ป.ช.ทราบ หากมีการทำธุรกรรมเงินสดตั้งแต่ 5 แสนบาท และอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป โดยครอบคลุมถึงคู่สมรสและบุตรที่ไม่บรรลุนิติภาวะด้วย คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ไม่เกินวันที่ 30 ก.ย. 57ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะไปหารืออีกครั้งว่า จะมีนักการเมืองและข้าราชการระดับใดบ้าง ที่อยู่ในข่ายต้องถูกรายงาน การทำธุรกรรมการเงินให้ ป.ป.ช.ทราบ

+++ พี่-น้อง'ธรรมวัฒนะ'ยุติความขัดแย้ง 14 ปี ปมมรดกเลือด ศาลไกล่เกลี่ยสำเร็จ คู่ความตกลงถอนฟ้องแพ่ง-อาญา 48  นายเจษฎา ยวงทอง ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา ในฐานะผู้ประนอมข้อพิพาท กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากที่มีการฟ้องร้องต่อศาลอาญาในข้อหาพูดเท็จกรณีฟ้องแพ่งในคดีมรดก โดยการประนีประนอมคดีนี้ถือว่ายุ่งยากที่สุด แต่ทั้งสองฝ่ายก็มีการเจรจาจนตกลงยอมทำสัญญากันได้ ซึ่งทรัพย์สินก็มีการขายขาด 100 เปอร์เซ็นต์ และแบ่งผลประโยชน์กัน เมื่อทำสัญญาประนีประนอมกันแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็จะต้องปฏิบัติตามข้อสัญญาให้ครบถ้วนทุกข้อ สำหรับปมความขัดแย้งมรดกของตระกูลธรรมวัฒนะ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 14 ปี เกิดขึ้นภายหลังจากที่นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ พี่ชายคนโตได้เสียชีวิตไป เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2542 ภายในบ้านพักย่านสะพานใหม่ จนทำให้นายนพดล ธรรมวัฒนะ น้องชาย ตกเป็นผู้ต้องหา กระทั่งเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2553 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องนายนพดล เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ

+++สังคมสื่อออนไลน์ช่วยกันแจ้งเตือนเรื่องธนบัตรปลอมที่กลุ่มมิจฉาชีพกำลังนำออกมาใช้จ่ายและแพร่สะพัดอยู่ในขณะนี้ ธปท.ตรวจสอบพบว่า มีธนบัตรปลอมชนิดราคา 1,000 บาท หมายเลข 9ฉA 3828862 และหมายเลข 9ฉA 3828863 เข้ามาในระบบ ซึ่งสังเกตได้ด้วยตาเปล่า คือ ไม่ปรากฏลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ธปท.จึงได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องวิธีสังเกตธนบัตร  ธปท.ขอความร่วมมือประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังและสังเกตก่อนรับธนบัตรด้วย 3 วิธีง่ายๆ  คือ การสัมผัส เนื้อกระดาษธนบัตร เป็นกระดาษชนิดพิเศษ มีความเหนียว แกร่ง ทนต่อการพับดึง และให้ความรู้สึกแตกต่างจากกระดาษทั่วไป และการสัมผัสตัวเลขราคา และคำว่ารัฐบาลไทย จะรู้สึกสะดุดกับหมึกพิมพ์

+++เมื่อยกธนบัตรส่องกับแสงจะเห็นลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในเนื้อกระดาษอย่างชัดเจนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงรูปลายไทยขนาดเล็กที่มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษและแถบสีโลหะฝังอยู่ในเนื้อกระดาษ บนแถบมีตัวเลขแจ้งชนิดราคาหรือตราสัญลักษณ์ฯ และเมื่อพลิกเอียงดู บริเวณมุมของธนบัตร พิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์ชนิดพิเศษ เมื่อพลิกธนบัตรไปมาสีของตัวเลขจะเปลี่ยนสลับสีได้

+++พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมจัดระเบียบท่าพระจันทร์และท่าช้างเป็นคิวต่อไป โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ด้านกรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ ตรวจสอบแท็กซี่ รับส่ง ผู้โดยสาร ที่หน้าอาคารคลังสินค้า สนามบินดอนเมือง ในวันนี้

+++ประเด็นน้องกอหญ้า ถูกผู้ปกครองบังคับให้กินอ้วก นางญาณี เลิศไกร  อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ   กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดีได้ดูแลให้ความคุ้มครองน้องกอหญ้าไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและครอบครัว ล่าสุดทางศูนย์ฯ เตรียมนำตัวน้องกอหญ้าไปตรวจสภาพร่างกายและจิตใจในวันที่ 31 ก.ค.นี้ที่ รพ.ตำรวจ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจ ส่วนทางศูนย์ฯ ทำหน้าที่ในการแยกตัวเด็กออกจากผู้ปกครองและความดูแลเพียงเท่านั้น ยังไม่ได้มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด เนื่องจากจะต้องดูข้อเท็จจริงพร้อมทั้งพยานหลักฐานภายหลังจากการตรวจสภาพร่างกายและจิตใจก่อน ส่วนการที่พ่อของน้องกอหญ้าได้ติดต่อขอรับเด็กไปไว้ในความดูแลนั้น   ต้องประเมินความพร้อมอีกครั้ง เนื่องจากพ่อของเด็กประกอบอาชีพที่ต้องเดินทางเคลื่อนย้ายบ่อยไม่เป็นหลักแหล่ง อีกทั้งยังไม่เคยติดต่อหรือเลี้ยงดูตัวเด็กเลย