ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ผู้นำสหรัฐ ประกาศเพิ่มการลงโทษทางเศรษฐกิจรัสเซีย ซึ่งเป็นความร่วมมือกับสหภาพยุโรป หรือ อียูที่จะทำให้เศรษฐกิจรัสเซียที่อยู่ในภาวะอ่อนแอในเวลานี้ ยิ่งอ่อนแอลงไปกว่าเดิม เพราะมีเป้าหมายการลงโทษคือด้านพลังงาน อาวุธ และการเงิน โดยมาตรการใหม่จะรวมถึงการห้ามชาวอเมริกัน หรือประชาชนจากสหรัฐอเมริกาทำธุรกิจกรรมบัญชีธนาคารรัสเซีย 3 แห่งคือ วีทีบี , ธนาคารมอสโกว์ และธนาคารเพื่อการเกษตรรัสเซีย เพื่อลงโทษที่รัสเซียยังสนับสนุนกลุ่มกบฎยูเครนทางตะวันออกของประเทศที่มีแนวนิยมฝักใฝ่รัสเซีย แม้รัสเซียจะปฏิเสธหลายครั้งว่าไม่ได้สนับสนุนอาวุธหนักให้กลุ่มกบฏ แต่ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า หากรัสเซียยังมีพฤติกรรมเช่นเดิมก็จะต้องพบกับความสูญเสียมากขึ้น อย่างไรก็ตามการที่สหรัฐประกาศเพิ่มการลงโทษรัสเซียยังเป็นไปตามที่สหรัฐประกาศมานานหลายสัปดาห์ เนื่องจากมาตรการลงโทษที่ประกาศขึ้นก่อนหน้านี้ ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังชี้แจงด้วยว่า ท่าทีของประเทศตะวันตกต่อรัสเซีย ไม่ได้หมายถึงการประกาศสงครามโลกครั้งที่ 3 เพราะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับรัสเซียมีความละเอียดอ่อน เพราะยังมีความร่วมมือในการปลดอาวุธนิวเคลียร์อิหร่าน และลดหัวรบนิวเคลียร์ในการครอบครองของซีเรีย
ก่อนหน้านี้ อียู ประกาศมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายที่ธุรกิจน้ำมัน ยุทโธปกรณ์ด้านการป้องกัน และเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหว ซึ่งรายละเอียดของมาตรการลงโทษจากฝ่ายอียูจะมีการประกาศในภายหลัง เพราะกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณารายชื่อบุคคลที่จะถูกระงับธุรกรรมบัญชีธนาคาร และห้ามการเดินทางในยุโรป เนื่องจากเยอรมนีที่เป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของยุโรป มีความสัมพันธ์การค้ากับรัสเซียจำนวนมหาศาล และนายวลาดิเมียร์ ชิซอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอียู กล่าวแสดงความผิดหวังต่อท่าทีของยุโรป
....F163..