หลังนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตแกนนำ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เปิดเผยว่า มีการซื้อขายตำแหน่งระดับรองผู้บังคับการ-สารวัตร ประจำปี 2559 โดยมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทพันตำรวจเอกกฤษะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ และยืนยันว่าการแต่งตั้งเป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งทุกอย่างอยู่บนหลักเกณฑ์ วิธีการคัดเลือกที่โปร่งใส และจะมีคณะกรรมการพิจารณาอีกต่อหนึ่ง ซึ่งหากมีประเด็นทุจริตจริง ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใด ก็จะตรวจสอบ หากใครมีข้อมูลขอให้นำเรียนมายังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทันที
สำหรับกรณีพบศพหญิงไม่ทราบชื่อ อายุ 14-17 ปี ที่คลองสำโรง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ พันตำรวจเอกกฤษณะ เปิดเผยว่า ขณะนี้หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าถูกกระทำชำเราหรือไม่ ต้องรอผลจากการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ คาดว่าจะทราบได้ใน 10 วัน
ส่วนกรณีที่มีรายงานเกี่ยวกับหนังสือเวียนเตือนว่าจะมีการลอบวางระเบิดหรือก่อเหตุการร้าย ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ช่วงวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา พันตำรวจเอกกฤษณะ ระบุว่า เป็นหนังสือที่ออกโดยกรมการปกครองที่เป็นการแจ้งเตือนตามวงรอบปกติเท่านั้น เนื่องจากทั้งสามจังหวัดนี้ เป็นเมืองใหญ่ มีนักท่องเที่ยวประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งต้องการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ มีความกระตื้อรือร้นในการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนการข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้พบสิ่งผิดปกติ รวมถึงทางพื้นที่ก็ไม่ได้ขอกำลังเสริมเพื่อดูแลความเรียบร้อยเพิ่มเติม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานประสานร่วมมือกันเป็นอย่างดี
ส่วนกรณีการติดตาม ตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ผู้ต้องหาขับรถชนตำรวจทองหล่อเสียชีวิตเมื่อปี 2555 พันตำรวจเอกกฤษณะ ระบุว่า ล่าสุดยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้า ทราบเพียงว่าขณะนี้ทุกฝ่ายอยู่ระหว่างการประสานเพื่อติดตามตัวว่าแท้จริงแล้วนายวรยุทธอยู่ที่ใดกันแน่ เนื่องจากหากสถานที่ยังไม่ชัดเจน ก็จะยังไม่สามารถดำเนินการได้มากนัก จะเกิดความเสียหาย ยืนยันไม่ใช่การประวิงเวลาให้คดีหมดอายุความ
..
ผสข.สมจิตร์ พูลสุข