ราคาข้าวมีแนวโน้มดีขึ้น/ลงทะเบียนคนจนคุณสมบัติผ่านประมาณ12ล้านคน

12 มิถุนายน 2560, 08:23น.


การค้าข้าว นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทิศทางการค้าข้าวไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากรัฐบาลได้ระบายสต๊อกข้าวไปได้แล้ว 13 ล้าน 8 แสน 9 หมื่นตัน มูลค่า 1 แสน 3 หมื่นล้านบาท ยังเหลือข้าวที่ระบายเพื่อการบริโภคอีก 1 แสน 6 หมื่นตัน และอีก 2 ล้าน 7 แสนตันเป็นข้าวที่ต้องระบายข้าวสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่คนบริโภคและเข้าอุตสาหกรรม ขณะที่ทิศทางราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาข้าวเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2560 พบว่า ราคาข้าวเปลือกสูงสุดอยู่ที่ตันละ 8,700 บาท ข้าวสาร 5% ราคาตันละ 13,900-14,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 22,600-22,700 บาท และราคาส่งออกข้าวขาว 5% ตันละ 470 เหรียญสหรัฐ และข้าวหอมมะลิตันละ 793 เหรียญสหรัฐ โดยยอดส่งออกข้าวไทยในช่วง 5 เดือนกว่า ได้มากกว่า 5 ล้านตันแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยประเทศสำคัญที่นำเข้าข้าวอย่างฟิลิปปินส์ อิหร่าน ซื้อข้าวมากขึ้น แต่ยังพบความพยายามในการบิดเบือนข้อมูลตลาดข้าวเพื่อสร้างความเข้าใจผิด



ส่วนลงทะเบียนเพื่อขอรับสวัสดิการจากรัฐ นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ามีผู้ลงทะเบียน 14 ล้าน 1 แสนคน แต่คาดว่า จำนวนผู้ที่ผ่านการตรวจสอบจะเหลืออยู่ที่ประมาณ 12 ล้านคน หรือถูกตัดสิทธิ์ไปประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งส่งรายชื่อทั้งหมดไปให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือส่งรายชื่อไปยังธนาคารพาณิชย์เพื่อตรวจสอบเงินฝาก ขณะที่กรมสรรพากรจะตรวจสอบประวัติการเสียภาษี และกรมที่ดินจะตรวจสอบการถือครองที่ดิน



กรมบัญชีกลาง จะเร่งแจกบัตรสวัสดิการให้แก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด หากมีจำนวนประชาชนที่ต้องแจกบัตรถึง 12 ล้านคน คาดว่า จะใช้เวลาในการแจกบัตรประมาณ 2 เดือนโดยตั้งเป้าจะแจกบัตรในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนเพื่อให้ทันเปิดตัวโครงการในวันที่ 1 ตุลาคม 2560



ด้านกรมสรรพากร เตรียมเสนอร่างกฎหมาย การจัดเก็บภาษีการทำธุรกิจผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกว่า E-Business เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หลังการศึกษาพบว่ารายได้ของผู้ประกอบการธุรกิจโดยรวมลดลง เนื่องจากลูกค้าหันไปซื้อขายผ่านออนไลน์มากขึ้น ซึ่งนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า หลังผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว ก็จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติ (สนช.) ต่อไป และคาดว่า จะสามารถมีผลบังคับใช้ภายในรัฐบาลชุดนี้



กรณี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะกรรมการประสานและเร่งรัดการดำเนินคดีทุจริตระหว่างประเทศ ร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ร่วมเป็นกรรมการ รวบรวมข้อมูล ไต่สวนคดีทุจริตและคดีติดสินบนข้ามชาติอย่างน้อย 15 คดี โดยมีคดีทุจริตการเลี่ยงภาษีนำเข้ารถหรู ที่คาดว่าจะสรุปสำนวนได้ภายในเดือนกันยายนนี้ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตการเลี่ยงภาษีนำเข้ารถหรู เปิดเผยว่า คดีนี้มีผู้ถูกร้องเรียนกล่าวหาเป็นร้อยคน รถหรูที่เกี่ยวข้องเป็นหมื่นคัน และต้องประสานขอเอกสารหลักฐานจากต่างประเทศ ซึ่งจะต้องพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่มี ประกอบการสอบปากคำพยานบุคคลทำให้ต้องแบ่งย่อยออกเป็นหลายล็อต เชื่อจะสรุปสำนวนล็อตแรกนี้ได้ภายใน 2-3 เดือนนี้



นอกจากนี้ ยังมีคดีทุจริตที่เกิดขึ้นในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซึ่งนายพิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ในเดือนมิถุนายนนี้จะมีการหารือกับหน่วยงานเจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดผลการดำเนินงานคดี



ส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เตรียมเรียกเจ้าของบ้านพักหรู 2 หลังในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลาและป่าแหลมซำ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งพ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดี ดีเอสไอ คาดว่า



ในสัปดาห์นี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะมีการเสนอให้รับเป็นคดีพิเศษ และตั้งเรื่องสอบสวน ทั้งจะขยายผลไปยังแปลงข้างเคียงรวมประมาณ 1,000 ไร่



ข่าวอาชญากรรม ยังต้องติดตามคดีฆาตกรรม สามเณรปลื้ม หรือสามเณรศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเมื่อวานนี้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพแล้ว ซึ่งครอบครัวยังเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการที่ไปรับรู้เรื่องการทุจริตภายในวัด ส่วนความคืบหน้าคดี ใกล้จะปิดสำนวนสรุปคดีเพื่อส่งฟ้องต่ออัยการ ส่วนของการติดตามข้อมูลทรัพย์สินต่างๆ ของวัดโดยเฉพาะบัญชีเงินฝาก 40 ล้านบาทที่หายไปหลังทีมผู้ต้องหาเข้ามาจัดการ กำลังมีการติดตามบัญชี ทั้งนี้ พระครูพรหมเขตคณารักษ์ เจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ยังไม่แจ้งความในคดียักยอกทรัพย์ ทำให้ตำรวจไม่สามารถดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาในข้อหายักยอกทรัพย์ได้เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์ จึงต้องรอจนกว่าจะมีการแจ้งความเพื่อจะได้ดำเนินคดีต่อไป



ขณะเดียวกัน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) มีปฎิบัติการปราบปรามกระบวนการทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะและปฎิสังขรณ์วัดของสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า บก.ปปป.ตรวจพบมีวัดที่มีพฤติกรรมทุจริต 12 แห่ง สร้างความเสียหายแก่รัฐประมาณ 60 ล้าน 5 แสนบาท ขณะนี้รอเพียงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้มูลความผิด จากนั้นจึงจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง



..

ข่าวทั้งหมด

X