ฝรั่งเศสเลือกสส.รอบแรก/รัสเซียกังวลสถานการณ์คว่ำบาตรกาตาร์

ฝรั่งเศสจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรอบแรก เพื่อหา ส.ส.จำนวน 577 จากที่มีผู้ลงสมัครมากถึง 7,882 คน หลังจากที่เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งต่อจากนายฟร็องซัวส์ โอลองด์ สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ของฝรั่งเศส จะมีขึ้นสองรอบ คือวันที่ 11 มิถุนายนและวันที่ 18 มิถุนายน ผู้ชนะเลือกตั้งจะต้องได้คะแนนมากกว่าร้อยละ 50 ส่วนเขตที่ผู้สมัครได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 50 จะต้องไปคัดเลือกในรอบสอง เฉพาะผู้ที่มีคะแนนอย่างน้อยร้อยละ 12.5 ของผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ

โดยผลการสำรวจล่วงหน้าพบว่า กลุ่มการเมืองที่จับขั้วกับประธานาธิบดีมาครง จะได้เสียงในสภาฯ มากที่สุด รองลงมาคือพรรคสังคมนิยม และพรรคแนวร่วมแห่งชาติของนางมารีน เลอแปง คู่ชิงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีกับนายมาครง 

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย พบหารือกับชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ ที่กรุงมอสโก โดยระบุว่ารัสเซียมีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อความขัดแย้งทางการทูตที่กำลังเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง และหวังว่าคู่กรณีจะร่วมกันหาทางออกด้วยการเจรจา  ซึ่งรัฐบาลรัสเซียพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม

ก่อนหน้านี้นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบีย และกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับผ่อนคลายมาตรการกดดันทางการทูตและเศรษฐกิจต่อกาตาร์ แต่ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรปฏิเสธข้อเรียกร้องของนายทิลเลอร์สัน และสนับสนุนคำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐที่ว่ากาตาร์สนับสนุนด้านการเงินต่อกลุ่มก่อการร้าย

ที่ฟิลิปปินส์ พ.ท.โจ-อาร์ เฮอร์เรรา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ แถลงว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตรวจค้นบ้านทีละหลัง ในเมืองมาราวี เกาะมินดาเนาเพื่อค้นหาสมาชิกกลุ่มติดอาวุธเมาเตซึ่งเป็นแนวร่วมของกลุ่มไอเอส และยังคงหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ หลังข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมไม่ได้ผล และมีการสู้รบเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากการสู้รบที่ยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีจำนวนมากกว่า 200 คนแล้ว นอกจากนี้ กองทัพฟิลิปปินส์ยังเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก ที่นายโอมาร์ เมาเต และนายมาดี เมาเต พี่น้องในกลุ่มผู้นำจะเสียชีวิตในระหว่างการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ เหลืออีกหนึ่งคนคือนายอับดุลเลาะห์ เมาเต ซึ่งเป็นผู้บัญชาการ นอกจากนี้ยังมีการจับกุมบิดาและมารดาของกลุ่มพี่น้องเมาเค พร้อมยึดอาวุธได้หลายรายการ

ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐชี้แจงเรื่องการมอบความช่วยเหลือทางเทคนิค ให้แก่กองทัพฟิลิปปินส์ เพื่อใช้ในการสู้รบชิงเมืองมาราวี หลังส่งเครื่องบินปราบเรือดำน้ำให้แก่กองทัพฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

หน่วยคอมมานโดอัฟกานิสถานกราดยิงทหารสหรัฐฯเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 1 นายที่เขตอาชิน จ.นันการ์ฮาร์ ซึ่งกลุ่มตาลีบันอ้างว่าหน่วยคอมมานโดที่ก่อเหตุคือนักรบของกลุ่ม และเกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาความไม่เข้าใจกัน ระหว่างประชาชนกับกองกำลังต่างชาติ และเพิ่งเกิดเหตุผิดพลาดที่เครื่องบินรบสหรัฐฯ โจมตีตำรวจอัฟกันเสียชีวิตและบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 6 นายในจังหวัดเฮลมานด์

ตำรวจเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า เกิดเหตุรถบรรทุกพุ่งชนกลุ่มคนที่บริเวณสถานีรถไฟหลักในกรุงอัมสเตอร์ดัม ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 8 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีอาการสาหัส 2 คน แต่ไม่มีเบาะแสที่บ่งชี้ว่า เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย

หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยภาวะลดโลกร้อน แต่นายเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เดินทางไปร่วมประชุมพลังงานสะอาดนานาชาติที่กรุงปักกิ่งของจีน และประกาศว่ารัฐแคลิฟอร์เนียจะเดินหน้าข้อตกลงต่อไปแม้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะถอนตัวออกไปก็ตาม ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้คำมั่นว่าจะขยายการค้าระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียกับจีนด้วยเทคโนโลยีสีเขียวเพื่อช่วยลดโลกร้อน

โครงการอาหารโลก ของสหประชาชาติ เปิดเผยว่า เอธิโอเปียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและคลังอาหารที่มีอยู่จะหมดลงในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากภัยแล้งที่ยาวนานจนส่งผลกระทบประชาชน 7 ล้าน 8 แสนคน แม้จะได้รับเงินจัดสรรพิเศษ 381 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งแต่ยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังเกิดภาวะขาดแคลนอาหารที่ไนจีเรียฝั่งตะวันออกเหนือ ซูดานใต้ เยเมนและโซมาเลีย ถือเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมรุนแรงที่สุดของโลกนับแต่ปี 2488

กลุ่มกบฏที่ยึดพื้นที่ภาคตะวันตกของลิเบีย ปล่อยตัวนายซาอิฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี อายุ 44 ปี บุตรชายคนที่ 2 ของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำที่เคยได้รับการคาดหมายว่าเป็นทายาทการเมืองต่อจากบิดา และเป็นไปตามคำร้องขอจากรัฐบาลเฉพาะกาลภายใต้กฎหมายนิรโทษกรรม ที่ประกาศใช้เมื่อเดือนเมษายนของปีกลาย

รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมขยายงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานปีงบประมาณ 2561 มากถึงร้อยละ 17 หรือ 34,200 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของอินโดนีเซียขยายตัวถึงร้อยละ 5.4-6.1 ในปี 2561 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5 เมื่อปีที่ผ่านมา

ส่วนเวียดนาม นายลีออน ทรูจิโล ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ส่งเสริมการนำเข้าสินค้าจากประเทศกำลังพัฒนา (ซีบีไอ) ของเนเธอร์แลนด์ แสดงความเห็นว่า เวียดนามเป็นประเทศจัดหาสินค้าเกษตรและอาหารรายสำคัญเข้าสู่ตลาดโลก แต่ผู้บริโภคไม่ทราบว่าเป็นสินค้าจากเวียดนามเพราะส่งออกวัตถุดิบหรือสินค้าที่ยังไม่แปรรูปเป็นหลัก จึงแนะนำให้เวียดนามพัฒนายุทธศาสตร์กระจายสินค้าโดยเฉพาะการผลิตเพื่อส่งออก

...