ชาวอเมริกันจัดการชุมนุมต่อต้านกฎหมายชารีอะในหลายสิบเมืองทั่วประเทศ โดยมองว่า เป็นภัยคุกคามเสรีภาพชาวอเมริกัน โดยกลุ่ม “แอ็ค ฟอร์ อเมริกา” ซึ่งเป็นองค์กรรากหญ้าที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงแห่งชาติ ได้จัดการชุมนุมทั้งในนครนิวยอร์ก ชิคาโก บอสตัน เดนเวอร์ ซีแอตเทิล และอีกหลายเมือง เพื่อต่อต้านกฎหมาย ซึ่งกลุ่ม “แอ็ค ฟอร์ อเมริกา” มองว่า ขัดกับสิทธิมนุษยชน ทั้งในประเด็นการกดขี่สตรี และการรักร่วมเพศ เป็นต้น สำหรับการชุมนุมที่มีบรรยากาศตึงเครียด ได้แก่ รัฐเพนซิลเวนีย และนครซีแอตเทิล โดยที่รัฐเพนซิลเวเนีย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังอย่างหนาแน่น พร้อมตั้งสิ่งกีดขวางแยกกลุ่มผู้ประท้วงที่ต่อต้านกฎหมาย ซึ่งมีจำนวนประมาณ 60 คน พอๆ กับกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วย โดยคนกลุ่มหลังได้สวมฮู้ดและหน้ากากดำ ร้องตะโกนไม่เอาทั้งประธานาธิบดีทรัมป์ กลุ่ม KKK และผู้นำเผด็จการ ขณะที่หนึ่งในผู้ชุมนุมประท้วงเปิดเผยว่า โดยส่วนตัวไม่ได้เกลียดชาวมุสลิม แต่เชื่อว่า วัฒนธรรมอิสลามหลายอย่างเข้ากันไม่ได้กับวัฒนธรรมตะวันตก อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการชุมนุมจบลงโดยไม่เกิดเหตุรุนแรง แต่มีผู้ถูกจับกุมไป 1 คน ส่วนที่นครซีแอตเทิล เหตุการณ์ชุมนุมตึงเครียดสูง หลังชายคนหนึ่ง ซึ่งร้องตะโกนถ้อยคำป้ายสีเด็กหญิงวัยรุ่น 2 คนบนรถไฟโดยสาร และได้แทงชาย 2 คน ซึ่งพยายามเข้าห้าม อย่างไรก็ดี สภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม ซึ่งเป็นองค์กรมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ออกคำเตือนชาวมุสลิมให้ระวังการชุมนุมประท้วงเป็นพิเศษ เพราะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุรุนแรง ทั้งนี้ อาชญากรรรมที่เกิดจากความเกลียดชังต่อต้านมุสลิมเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ถึงร้อยละ 57 เมื่อปีที่แล้ว
...
(1245 F171)