กลุ่มประเทศอาหรับ ขึ้นบัญชีดำกลุ่มบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกาตาร์

รอยเตอร์ รายงานอ้างแถลงการณ์ร่วมของ4 ประเทศอาหรับคือ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์และบาห์เรนว่ากลุ่มชาติอาหรับทั้ง 4 ประเทศที่ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์เมื่อวันจันทร์ กล่าวหากาตาร์ว่าสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ในวันนี้ได้ขึ้นบัญชีดำบุคคลต่างๆ 59 คน รวมถึงนายยูเซฟ อัลการาดาวี ผู้นำทางจิตวิญญาณของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ที่มีความเชื่อมโยงกับกาตาร์ พร้อมทั้งขึ้นบัญชีดำองค์กรต่างๆอีก 12 แห่ง รวมถึงองค์กรการกุศลชื่อกาตาร์แชริตี้และอีด แชริตี้ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกาตาร์ ระบุว่า บุคคลและองค์กรดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย

การตัดสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจกับกาตาร์เช่นนี้ยิ่งจะเพิ่มความขัดแย้งและจะสั่นคลอนเสถียรภาพของภูมิภาคตะวันออกกลางให้แย่หนักยิ่งขึ้น

กาตาร์ ประเทศเล็กๆในแถบอ่าวอาหรับ เป็นซัพพลายเออร์พลังงานก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลกและเป็นที่ตั้งฐานทัพขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯในตะวันออกกลาง

ซาอุดิอาระเบียและยูเออี เคยขึ้นบัญชีดำหลายองค์กรของกาตาร์ในช่วงที่เกิดปัญหาขัดแย้งในลักษณะเดียวกันนี้กับกาตาร์เมื่อปี 2557

ด้านรัฐบาลกาตาร์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาของเพื่อนบ้านชาติอาหรับว่า กลุ่มประเทศเหล่านั้นได้ตอกย้ำถึงข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงให้ฟังดูมีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากขึ้น จุดยืนของกาตาร์เรื่องการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายมีความเข้มแข็งมากกว่าหลายประเทศที่ร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมเสียอีก

รัฐบาลกาตาร์ เพิ่มเติมว่า กาตาร์เป็นคนริเริ่มให้กลุ่มประเทศทั่วทั้งตะวันออกกลางให้ปราบปรามสิ่งที่เรียกว่ารากเหง้าแห่งลัทธิก่อการร้าย สร้างขวัญกำลังใจให้กับเยาวชนด้วยการสร้างงานเพิ่มเติม ให้การศึกษาแก่ผู้อพยพซีเรียหลายพันคนและจัดเงินทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาชุมชน เป็นส่วนหนึ่งของการขจัดปัญหากลุ่มหัวรุนแรงให้หมดไป ผู้ที่แสดงความจำนงจะช่วยไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในครั้งนี้รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯและเจ้าผู้ครองนครรัฐแห่งคูเวต

ทีมต่างประเทศ

CR:Reuters