นายกฯแจงงบฯ2561/โค้งสุดท้ายนายกฯเมย์คะแนนนำไม่ห่าง/น้ำมันโลกร่วง

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ชี้แจงร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในวาระแรก วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งของบฯไว้ 510,961 ล้านบาท มากที่สุดเหมือนทุกปี รองลงมา กระทรวงมหาดไทย 355,995 ล้านบาท กระทรวงการคลัง 238,356 ล้านบาท กระทรวงกลาโหม 222,436 ล้านบาท กระทรวงคมนาคม 172,876 ล้านบาท

+++เลือกตั้งอังกฤษ โพลสำรวจสุดท้ายก่อนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ ในวันที่ 8 มิ.ย. โดยรวมพรรคอนุรักษ์นิยม ฝ่ายรัฐบาลนำโดยนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีหญิง ยังนำพรรคแรงงานฝ่ายค้านที่นำโดยนายเจเรมี คอร์บิน อยู่ประมาณ 6 จุด หลังจากพรรคแรงงาน มีคะแนนนิยมพุ่งขึ้นในช่วงโค้งสุดท้าย โพลของ Survation พบว่าพรรคอนุรักษ์นิยมนำพรรคแรงงานเพียงแค่ 1 จุด ส่วนโพลของ ComRes พบว่าพรรคอนุรักษ์นิยมนำพรรคแรงงาน ห่างถึง 12 จุด การรณรงค์หาเสียงถูกขัดจังหวะด้วยการโจมตีก่อการร้าย 2 ครั้ง ที่เมืองแมนเชสเตอร์และในกรุงลอนดอน แต่ดูเหมือนเหตุการณ์ทั้ง 2 จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ เปิดคูหาเลือกตั้งเวลา 07.00-22.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 13.00 น. ของวันเดียวกัน ถึง 04.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน ตามเวลาประเทศไทย การนับคะแนนจะเริ่มทันทีหลังปิดคูหาเลือกตั้ง ภายในเช้ารุ่งขึ้นของวันที่ 9 มิถุนายน จะได้ภาพชัดเจนว่าใครเป็นผู้ชนะ

+++สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า ภายหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายที่สะพานลอนดอน (London Bridge) และตลาดโบโรจ์ (Borough Market) กลางกรุงลอนดอน เมื่อคืนที่ 3 มิ.ย. สถานเอกอัครราชทูตไทยฯประเมินสถานการณ์จากแหล่งข้อมูลต่างๆแล้ว เห็นว่า ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงหลังการเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักรออกไปอีก 1-2 สัปดาห์ ชาวไทยที่พำนักในกรุงลอนดอนและเมืองหลักของสหราชอาณาจักรควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรและการเข้าไปในที่ชุมนุมของสาธารณชน  นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรมีมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกัน และระงับเหตุอย่างเข้มข้นในพื้นที่มีความเสี่ยง อาทิ สนามบิน รถไฟใต้ดิน แหล่งท่องเที่ยว สถานบันเทิง สนามกีฬา โรงมหรสพ ฯลฯ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่สะดวก และขอให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ทางการอย่างเต็มที่ รวมทั้งขอให้ความสนใจติดตามข่าวสารต่างๆอย่างใกล้ชิดด้วย

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 2.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล      

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อย ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 37.46 จุด ปิดที่ 21,173.69 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.81 จุด ปิดที่ 2,433.14 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 22.32 จุด ปิดที่ 6,297.38 จุด

+++ด้านราคาทองคำ ปิดลบเล็กน้อย หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,293.20 ต่อออนซ์

+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เข้าพบนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 4-8 มิ.ย. 2560 โดยยื่นขอเสนอขอความร่วมมือเพื่อผลักดันการค้าการลงทุนร่วมกันใน 4 ประเด็น คือ 1.ขอให้ญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการวางยุทธศาสตร์ CLMVT ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย ในการประชุมสุดยอดอาเซียนปลายปีนี้  2. เสนอแผนพัฒนารถไฟภายใต้กรอบความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น ทั้งเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ แผนพัฒนารถไฟเชื่อมตะวันออก-ตะวันตก (อีสต์ เวสต์ คอร์ริดอร์ส) รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมเร่งพิจารณาข้อเสนอของญี่ปุ่นในการขยายเส้นทางรถไฟเชื่อมอีอีซีถึงอยุธยา 3.ความร่วมมือกับญี่ปุ่นในการสนับสนุนการวาง Global Value Chain (ห่วงโซ่มูลค่า) เพื่อปฏิรูปการผลิตทั้งหมด ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีก้าวสู่ยุค 4.0 และ 4.ขอให้ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น Keidanren (ไคเดนเรน) นำทัพนักธุรกิจญี่ปุ่นเดินทางมาพบกับนักธุรกิจไทย เนื่องในโอกาสครบรอบสัมพันธ์ทางการทูต 130 ปี  ทั้งนี้ นายอาเบะ ได้ขอให้ไทยช่วยดูแลนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในไทย ปัจจุบันมีประมาณ 7 หมื่นคน ซึ่งไทยได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลอย่างดีและดูแลตลอดไป เหมือนที่ญี่ปุ่นไม่เคยทอดทิ้งไทย

+++นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หารือร่วมกับหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บริษัทเอกชนไทยที่ลงทุนในสหรัฐฯ เพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับการเตรียมเดินทางเยือนสหรัฐฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ ตามคำเชิญของประธานาธิบดีสหรัฐฯ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผย ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องการค้าและการลงทุน รวมถึงสิ่งที่จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อภาคธุรกิจของไทยและสหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลไปเสริมกับส่วนที่เป็นของภาครัฐ

+++มูลค่าการลงทุนของภาคเอกชนไทยในสหรัฐฯ คิดเป็น 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 170,049 ล้านบาท และสามารถสร้างงานได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกันขอยืนยันว่าไทยไม่ได้เปรียบดุลการค้าจากสหรัฐฯ ตามที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกต โดยตัวเลขที่สหรัฐฯระบุว่าไทยเกินดุล 1,800 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 61,217 ล้านบาทนั้น ยังไม่ได้รวมด้านต่างๆ อาทิ การบริการ ธุรกิจประกันภัย เป็นต้น ซึ่งไม่ได้มากตามที่สหรัฐฯระบุ นอกจากนี้ มีการประเมินรายงานการค้ามนุษย์ ซึ่งภาครัฐและเอกชนไทย พยายามเร่งแก้ไขทั้งในเรื่องแรงงานและการค้ามนุษย์ด้วย

 +++เซตซีโรคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยถึงข้อเสนอการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ว่าไม่กระทบองค์กรอิสระอื่น เนื่องจากเหตุผลแตกต่างกันไป  นายมีชัย กล่าวว่า การเซตซีโร่ กกต.ดีที่สุด เพราะสอดคล้องต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กกต.คือองค์กรอิสระเดียวที่มีการเปลี่ยนแปลงเยอะที่สุด ได้แก่ 1.เพิ่มจำนวนจาก 5 คน เป็น 7 คน 2.กำหนดที่มาที่ไปและสัดส่วนอย่างชัดเจน 3.เพิ่มอำนาจหน้าที่มากขึ้น คุณวุฒิที่มาที่ไป กกต.จึงสำคัญ และ 4.การทำหน้าที่และบทบาท กกต. มีลักษณะเป็นเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ ไม่ต้องรอคนร้องเรียน ก็สามารถตรวจสอบเองได้ เปลี่ยน กกต.จังหวัดให้เป็นมือไม้ของ กกต. ด้วยเหตุนี้การเซตซีโร่ กกต.จึงดีกว่าแนวทางที่ กรธ.เสนอไป และไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ สุดท้ายขึ้นกับ สนช. สามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากมีเหตุผลและเป็นประโยชน์ กรธ.ก็ไม่ขัดข้อง

+++กรธ.เห็นด้วยกับ กมธ. สนช. ก็เพราะมีประโยชน์ต่อการเลือกตั้งมากที่สุด ยังไม่รู้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 เมื่อถึงตอนนั้น กกต.ชุดเดิมจะพ้นจากตำแหน่งหลายคน การทำหน้าที่อาจจะสะดุด เพราะต้องทยอยสรรหา กกต.เพิ่ม แต่หากเซตซีโร่ สรรหา กกต.ใหม่ 7 คนเลย ก็จะไม่สะดุด กกต.ชุดเดิมไม่ได้หลุดทันที แต่ให้รอได้ กกต.ใหม่เข้าก่อน ส่วนข้อกล่าวหาว่าเซตซีโร่ กกต.แล้วจะลากยาวเลือกตั้งนั้นไม่จริง เนื่องจากไม่ว่าจะสรรหา กกต.ตอนไหน ก็จะใช้เวลาตามกรอบวางไว้คือ 90 วัน ไม่กระทบต่อการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดแล้ว

+++ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมคดีเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย รวมคดีของวัดพระธรรมกายมีทั้งสิ้น 365 คดี สอบสวนเสร็จแล้ว 207 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 158 คดี สำหรับหมายจับพระธัมมชโยในฐานะส่วนตัวและนิติบุคคลมีทั้งสิ้น 58 หมายจับ ทุกคดีรองผบ.ตร.มากำกับดูแลเองทั้งหมด ตราบใดถ้ายังไม่หมดอายุความ ไม่มีคำว่าล่าช้า สำนวนเคลื่อนไปตามสมควรตามที่ควรจะเป็น

CR:คลังภาพ รัฐบาลไทย