รองอธิบดีกรมชลประทาน เผยแผนพัฒนาแหล่งน้ำรองรับ EEC

การลงพื้นที่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อติดตามแผนพัฒนาแหล่งน้ำรองรับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา  ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สำหรับภาคตะวันออก รัฐบาลได้มีนโยบายให้ 3 ตังหวัด เป็นพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งในปี 2548 เคยประสบปัญหากับวิกฤตการณ์น้ำแล้งค่อนข้างมาก โดยพยายามแก้ไขปัญหาในระยะยาว และเมื่อรัฐบาลได้ประกาศนโยบายให้ 3 จังหวัดเป็นพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก กรมชลประทานจึงได้รับแนวนโยบายด้านการบริหารจัดการน้ำ โดยประสานกับการนิคมอุตสาหกรรม เพื่อดูความต้องการใช้น้ำในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งพบว่าในพื้นที่ของจังหวัดชลบุรีมีความต้องการใช้น้ำมากกว่าการกักเก็บที่มีอยู่ จึงมีความจำเป็น ต้องดึงน้ำจาก จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ระยอง ซึ่งจังหวัดระยองที่ส่งน้ำไปให้จังหวัดชลบุรี ในอนาคตก็ต้องมีความต้องการใช้น้ำมากขึ้น ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอ จึงมีแผนพัฒนาปรับปรุงแหล่งเก็บน้ำเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้มีศักยภาพจัดเก็บน้ำมากขึ้น

ส่วนแผนการพัฒนาแหล่งน้ำในระยะยาวเมื่อเป็นพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษ ต้องมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว หากใช้การพัฒนาแบบปกติอาจจะไม่ทัน จึงมีแผนว่า ในอีก 4 ปี ข้างหน้า อาจจะไม่ประสบปัญหาเรื่องน้ำ แต่ในระยะปีที่ 5-10 อาจมีการดึงน้ำ จากคลองน้ำข้างเคียงมาใช้ก่อน ส่วนหลังจาก 10 ปีแล้ว อาจมีการดึงน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านมาใช้ด้วย

ด้าน เป้าหมายและแนวทางการแก้ปัญหาในการรองรับระดับความต้องการน้ำ 20 ปี  เพื่อการอุปโภคบริโภคอุตสาหกรรมให้สมดุลกับภาคเกษตร  กรมชลประทานได้มีแนวทาง 5 ประการ ประกอบด้วย ปรับปรุงแหล่งน้ำเดิม ให้มีความจุเพิ่มขึ้น 80,000,000 ลูกบาศก์เมตร พัฒนาแหล่งน้ำใหม่ 4 แห่ง ให้มีความจุ 308,000,000 ลูกบาศก์เมตร เชื่อมโยงแหล่งน้ำกับระบบผันน้ำ ระหว่างอ่างเก็บน้ำทั้งในและต่างประเทศ สูบน้ำกลับท้ายอ่าง และแผนป้องกันน้ำท่วม ในเมืองระยองและพนัสนิคม จ.ชลบุรี โดยการหารือกับ ดร.วีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย ซึ่งจะช่วย บริหารจัดการน้ำโดย  ลดความต้องการใช้น้ำภาคอุตสาหกรรม ใช้น้ำหมุนเวียน และพัฒนาอ่างเก็บน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมเอง ถือเป็นความร่วมมืออย่างดี เพื่อสร้างความมั่นคงของน้ำไว้ ใช้ในอนาคต

สำหรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมพื้นที่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน โดยเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน การขนส่งเน้นส่งเสริม 10 อุตสาหกรรมหลัก ซึ่งจะมีการพัฒนาทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ