ความสนใจของนักลงทุนต่างชาติ ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยการลงพื้นที่ติดตามแผนพัฒนาแหล่งน้ำ ของกรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ดร.วีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กระแสการตอบรับของนักลงทุนค่อนข้างดี หลังทุกภาคส่วนได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ออกไป เนื่องจากมีพื้นที่เป้าหมาย กลุ่มอุตสาหกรรมที่ชัดเจน รวมทั้งให้สิทธิประโยชน์ ทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจ โดยถือเป็นสัญญาณที่ดี สังเกตได้จากกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาติดต่อขอซื้อที่ดิน ทำให้มียอดการเจริญเติบโตสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ว่า ใน 1 ปี จะสามารถขายได้ 3,000 ไร่ ซึ่งในระยะเวลา 6 เดือน สามารถขายไปได้ 1,600 ไร่ และคาดว่าใน 1 ปี จะสามารถขายที่ดินได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ และโดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่นและจีน ส่วนในแถบยุโรปจะมีบางในบางประเทศ ด้านการเตรียมความพร้อมด้านน้ำ ได้บูรณาการร่วมกับกรมชลประทาน โดยในวันนี้ได้หารือถึงสภาพของน้ำในระยะเวลา 5-20 ปี
อย่างไรก็ตามแม้กรมชลประทานจะมีแผนการพัฒนาน้ำ รวมทั้งข้อเสนอดีๆ ที่พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทางนิคมเองก็ยังมีการเตรียมความพร้อมด้วยตัวเอง โดยสนับสนุนให้ภายในนิคมใช้น้ำให้รู้คุณค่า รู้จักการหมุนเวียนใช้น้ำให้เกิดประโยชน์ พัฒนาสร้างอ่างเก็บน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรม ในบางพื้นที่ที่สามารถทำได้ และในอนาคตจะมีการพูดคุยการสร้างแหล่งน้ำเพิ่มเติม เช่น สร้างอ่างเก็บน้ำจืดในทะเล สร้างโรงผลิตน้ำจืดจากทะเล สร้างเสถียรภาพการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ในบางส่วนของแผนได้ดำเนินการไปแล้ว และในบางส่วนต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ โดยคาดว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะเพิ่มประสิทธิภาพกักเก็บน้ำภายในนิคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 30-40