รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง สั่งคุมเข้มคลังเก็บอาวุธทั่วประเทศ

หลังพบเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธสงครามตามพื้นที่ชายแดน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุว่า ได้รับรายงานแล้ว จะต้องไปตรวจสอบที่มาที่ไป รวมถึงสาเหตุการขนอาวุธว่าจะขนไปที่ไหน และจากการตรวจสอบผู้กระทำผิดทั้งเหตุดังกล่าวและเหตุพบวัตถุระเบิดM67ที่ส่งผ่านไปรษณีย์เคอรี่ เอ็กซ์เพรส สาขาบางเขน เป็นเพียงทหารชั้นประทวนเท่านั้น  ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยันว่าอาวุธที่ตรวจพบไม่ได้เอามาจากคลังเก็บอาวุธของไทย เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้ใช้ปืนอาก้า รวมถึงการขนย้ายอาวุธจะมีการตรวจสอบทุกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นขนส่งอาวุธจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่   ซึ่งได้สั่งการให้คุมเข้มคลังเก็บอาวุธทั่วประเทศแล้ว

โดยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีการพูดถึงการดูแลความปลอดภัยของประชาชน กรณีปรับปรุงกล้องซีซีทีด้วย  พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและวิสาหกิจจะต้องดูแลกล้องซีซีทีวีในพื้นที่ของตนเองให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงตรงตามวัตถุประสงค์และให้ภาพมีความชัดเจน เนื่องจากที่ผ่านมามีความวุ่นวายเกิดขึ้นแต่พบว่ากล้องชำรุด ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์แบบดังกล่าวขึ้นอีก หัวหน้าหน่วยงานนั้นจะต้องรับผิดชอบ