พล.อ. โรเบิร์ต บี บราวน์ ผู้บัญชาการกองกำลังทางบกสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นแปซิฟิก Commanding General, U.S. ARMY PACIFIC (USARPAC CG) พร้อมคณะ เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของกองทัพบก ระหว่าง 3 – 7 มิถุนายน 2560 โดยในช่วงเช้านี้ได้เข้าพบ พล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 โดยมีการหารือเกี่ยวกับฝึกร่วมระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา และพัฒนาขีดความสามารถของหน่วย รวมถึงกำลังพลด้านการฝึกศึกษา โดยในช่วงบ่ายพล.อ.โรเบิร์ต บี บราวน์ จะไปตรวจเยี่ยมกรมทหารราบที่31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) ที่จ.ลพบุรี
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในงานด้านความมั่นคงและสถานการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงมีความเห็นร่วมกันในการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้าย โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่จะช่วยสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในภูมิภาค รวมทั้งการพัฒนาและเสริมสร้างขีดความสามารถทางด้านการทหารในลักษณะการฝึกร่วม การฝึกผสม อย่างต่อเนื่อง
ตำรวจลอนดอน แถลงว่า คนร้าย 2 ใน 3 คน ที่อยู่เบื้องหลังการก่อการร้าย บริเวณสะพานลอนดอน และตลาดโบโรห์ ในกรุงลอนดอน เมื่อคืนวันที่ 3 มิถุนายน คือ นายคูห์ราม ชาห์ซาด บัตต์ อายุ 27 ปี พลเมืองอังกฤษ เกิดในปากีสถาน และนายราชิด เรดูเอน อายุ 30 ปี ชาวอังกฤษเชื้อสายโมร็อกโกและลิเบีย โดยทั้งคู่อาศัยอยู่ในเขตบาร์คกิง ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน โดยตำรวจและหน่วยเอ็มไอ5 รู้จักนายบัตต์ และยังเคยปรากฎตัวในภาพยนตร์สารคดีของสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มหัวรุนแรงในสหราชอาณาจักร ที่มีการออกอากาศไปเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนการตรวจสอบรถตู้ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พบระเบิดเพลิงจำนวน 12 ลูก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ก่อการร้ายมีแผนที่จะใช้อาวุธโจมตีที่ร้ายแรงมากยิ่งขึ้น
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จับกุม น.ส. เรียลิตี ลี วินเนอร์ อายุ 25 ปี พนักงานสัญญาจ้างของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) สาขารัฐจอร์เจีย ในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลลับกับสื่อ ซึ่งเป็นในคดีที่มีการกล่าวหาว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี การจับกุม น.ส.วินเนอร์ เกิดขึ้นไม่นานหลังจากสำนักข่าว อินเตอร์เซปท์ เผยแพร่รายงานที่อ้างว่าเป็นข้อมูลลับสุดยอดจากเอ็นเอสเอ ระบุว่า หน่วยงานข่าวกรองของกองทัพรัสเซียพยายามโจมตีทางไซเบอร์ไปยังซัพพลายเออร์ของซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างน้อย 1 แห่ง ในช่วงไม่กี่วันก่อนจะถึงวันลงคะแนนในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ รัสเซียยังส่งอีเมลลวงไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นมากกว่า 10 คน แต่ไม่ระบุว่า การโจมตีสำเร็จหรือไม่
ส่วนวิกฤติความสัมพันธ์ทางการทูตในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศกาตาร์ โดยกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย จากนั้นรัฐบาลเยเมน ลิเบีย และมัลดีฟส์ ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์แล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ขณะที่รัฐบาลบาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และยูเออี ประกาศให้เวลาชาวกาตาร์ที่เข้ามาท่องเที่ยวหรือพำนักอยู่ในประเทศของตน รีบเดินทางกลับไปยังกาตาร์ภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมทั้งไม่อนุญาตให้พลเมืองของชาติตน เดินทางไปยังกาตาร์เด็ดขาดในขณะนี้
..