ความคืบหน้าคนร้ายขับรถตู้สีขาวพุ่งชนคนบนสะพานลอนดอน ในกรุงลอนดอน เมื่อคืนวันที่ 3 มิถุนายน จากนั้นคนร้าย 3 คน ลงจากรถตู้ใช้มีดขนาดใหญ่ไล่ทำร้ายผู้คนที่ตลาดโบโรห์ แล้วยิงปะทะกับตำรวจทำให้ถูกยิงเสียชีวิตทั้ง 3 คน เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บ 48 คน โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตมีทั้งชาวแคนาดา และฝรั่งเศส ส่วนกลุ่มผู้บาดเจ็บมีชาวฝรั่งเศส และออสเตรเลีย
ด้านกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส อ้างอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ ซึ่งในการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 แห่งในเขตนิวแฮมและบาร์กกิงทางตะวันออกลอนดอน เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยได้อีกหลายคน ขณะที่ตำรวจนครบาลลอนดอน ระบุว่ารู้จักชื่อคนร้ายทั้ง 3 คนแล้ว โดยนายคูรัม ซาซัด บัตต์ อายุ 27 ปี เป็นพลเมืองอังกฤษเกิดในปากีสถาน เป็นที่รู้จักของตำรวจและหน่วยสืบราชการลับ ส่วนรายที่ 2 คือนายราชิด รีดูยูอานี อายุ 30 ปี ตำรวจเชื่อว่ามีเชื้อสายโมร็อกโกและลิเบีย โดยเขายังใช้อีกชื่อหนึ่งคือ นายราชิด อัลห์ดาร์ ซึ่งใช้วันเดือนปีเกิดต่างกัน โดยทั้งนายบัตต์ และนายรีดูยูอานี ต่างพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน ส่วนคนร้ายรายที่ 3 ตำรวจยังไม่เปิดเผยชื่อ
ส่วนการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ในสหราชอาณาจักรเริ่มขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ซึ่งผลการสำรวจล่าสุดชี้ว่าคะแนนนิยมของพรรคอนุรักษ์นิยมที่เป็นพรรครัฐบาลลดลงจากร้อยละ 12 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 11 และคาดว่าจะไม่ได้เป็นเสียงข้างมากในสภา
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ปฏิเสธรายงานที่ว่านายจาเรด คุชเนอร์ บุตรเขยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เสนอช่องทางลับในการสื่อสาร ทั้งปฏิเสธข้อกล่าวหาของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ว่ารัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนให้ประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ทั้งกล่าวด้วยว่า รัสเซียไม่ได้มีความสัมพันธ์พิเศษกับประธานาธิบดีทรัมป์
รัฐบาลเวเนซุเอลาเดินหน้าผลักดันให้มีการลงคะแนนเลือกสมัชชาร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ ทำให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านโจมตีว่า เป็นองค์กรที่สร้างขึ้นมาเพื่อรักษาอำนาจให้แก่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ที่เผชิญกับการประท้วงขับไล่อย่างรุนแรงมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 65 ราย
รัฐบาลกาตาร์แถลงประณามกลุ่มประเทศร่วมภูมิภาค ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และอียิปต์ ที่ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง เนื่องจากรัฐบาลกาตาร์ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มก่อการร้าย แต่กาตาร์ตอบโต้ว่าเป็นมาตรการที่ไม่มีความยุติธรรม และเป็นการตัดสินโดยไม่มีหลักฐานข้อมูล ทั้งนี้ ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อเว็บไซต์ของสำนักข่าวกาตาร์ถูกเจาะระบบเมื่อเดือนพฤษภาคม แล้วมีการเผยแพร่ความคิดเห็นเชิงลบของชีก ฮาหมัด บิน เคาะลีฟะฮ์ อัล ธานี ผู้ครองรัฐกาตาร์ เกี่ยวกับการเมืองอาหรับ ซึ่งทางการกาตาร์ชี้แจงว่าเป็นการกระทำของกลุ่มจารกรรมที่มุ่งหวังทำลายความสัมพันธ์ในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีฮุนเซน แห่งกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังทราบผลการเลือกตั้งท้องถิ่นกัมพูชาอย่างไม่เป็นทางการ โดยระบุว่าเป็นชัยชนะอีกครั้ง และการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้าก็จะมีผลไม่ต่างจากเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งพรรคประชาชนกัมพูชา หรือ ซีพีพี กวาดคะแนนไปได้ร้อยละ 51 ส่วนพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ ซีเอ็นอาร์พี แกนนำฝ่ายค้านซึ่งนำโดยนายเขม โสกา ตามมาในอันดับ 2 ที่ร้อยละ 46 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายค้านมีคะแนนใกล้เคียงกับรัฐบาลที่ปกครองประเทศมากว่า 32 ปี
ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์กลุ่มติดอาวุธเมาเตบุกยึดเมืองมาราวีบนเกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ และมีเหตุรุนแรงดำเนินมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม จากนั้นก็มีข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับกลุ่มติดอาวุธ แต่การอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ทำได้เพียง 134 คนและคาดว่ายังคงมีประชาชนติดค้างอยู่ในพื้นที่อีกราว 2,000 คนเนื่องจากข้อตกลงหยุดยิงถูกระงับลงกลางคัน โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจนถึงเมื่อวันอาทิตย์อยู่ที่ 196 ราย
นอกจากนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังขอความช่วยเหลือจากกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร หรือ เอ็มไอแอลเอฟ ที่เคลื่อนไหวอยู่บนเกาะมินดาเนา
ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านของฟิลิปปินส์ ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลสูงสุดเพื่อให้มีคำสั่งยกเลิกกฎอัยการศึก ที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ประกาศใช้บนเกาะมินดาเนาตอนใต้ของประเทศ ขณะที่การสู้รบในเมืองมาราวียังไม่มีทีท่าจะสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ว่าไม่สนใจคำตัดสินของศาล แต่จะฟังข้อเท็จจริงจากทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เท่านั้น
นายจานาร์ดาน ซาร์มา รัฐมนตรีพลังงานเนปาล ลงนามข้อตกลงสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาด 1,200 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นเขื่อนใหญ่ที่สุดในประเทศกับบริษัทซีจีจีซีของจีน ซึ่งเป็นโครงการที่มีมูลค่าราว 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทซีจีจีซีของจีนกำลังสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กในเนเปาล 3 แห่ง และเพิ่งสร้างเสร็จไปหนึ่งเขื่อน
ธนาคารโลก คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโตร้อยละ 2.7 และร้อยละ 2.9 ในปีหน้า ซึ่งดีขึ้นจากปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.4 โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าจะโตที่ร้อยละ 2.1 ส่วนเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนขยายตัวร้อยละ 1.7 เศรษฐกิจญี่ปุ่นคาดโตเพิ่มร้อยละ 1.5 ส่วนจีนคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 6.5
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 47.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 48 เซนต์ ปิดที่ 49.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดาวโจนส์ ลดลง 22.25 จุด หรือร้อยละ 0.10 ปิดที่ 21,184.04 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.97 จุด หรือร้อยละ 0.12 ปิดที่ 2,436.10 จุด แนสแดค ลดลง 10.11 จุด หรือร้อยละ 0.16 ปิดที่ 6,395.68 จุด
..