รอยเตอร์ รายงานอ้างนายมิตซูฮิโร ฟูรูซาวา รองกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ว่า หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชีย คือ ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับขนาดของมาตรการด้านการคลังที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯจะนำมาใช้เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯให้เติบโตนายฟูรูซาวาพูดประเด็นนี้ในเวทีสัมมนาเรื่องนโยบายการคลังและประชากรของเอเชียในกรุงโตเกียว ญี่ปุ่นในวันนี้ ตั้งข้อสังเกตว่าการที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ( เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วเกินไป อาจจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นมาก ซึ่งจะเพิ่มภาระหนี้ให้กับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชีย โดยเฉพาะประเทศที่กู้ยืมโดยใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่า โดยภาพรวม เอเชียจะยังคงเป็นผู้นำโลกในเรื่องการเจริญเติบโต เนื่องจากมีอุปสงค์ที่เติบโตและนโยบายเศรษฐกิจที่เหมาะสม
ปัจจัยเสี่ยงอีกข้อหนึ่งคือเศรษฐกิจในประเทศของจีน ยังคงมีการปรับฐานเพื่อหาจุดที่ลงตัวโดยต่อเนื่อง ในปัจจุบันเศรษฐกิจของจีน ยังขยายตัว ประเด็นที่น่าห่วงคือ การปล่อยสินเชื่อของภาคสถาบันการเงินที่สูงเกินไป และเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในอนาคต จึงเสนอแนะให้คณะผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลต่างๆในเอเชียปรับนโยบายการคลังให้สอดคล้องกับตัวเลขประชากรที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และกลุ่มประชากรวัยสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters