*กัมพูชา ยาหอมทหารไทย แก้ไขปัญหาปท.ชัดเจน /ออกหมายจับ ปล้นรถก่อระเบิดเบตง*

สรุปข่าว 19.35 น

+++พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมของกัมพูชา พร้อมคณะนายทหารระดับสูงของกัมพูชา ประกอบด้วย พล.อ.เนียง พาด รมช.กลาโหมกัมพูชา และ พล.ท.ฮุน มาเน๊ต รองผบ.ทบ. ผบ.หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล กระทรวงกลาโหมกัมพูชา และเป็นบุตรชายของนายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ของกัมพูชา ในฐานะแขกของกระทรวงกลาโหม พล.อ.เตียร์ บันห์ กล่าวว่า กัมพูชาได้ติดตามรับทราบสถานการณ์ข้อมูลในประเทศไทยทุกอย่าง ทั้งด้านการเมือง การทหาร และเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้อง พบว่า  การแก้ไขปัญหาของไทยมีความชัดเจนและนำไปสู่แนวทางความสงบเรียบร้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรี  ฮุนเซ็น ได้บอกว่า เข้าใจสถานการณ์การเมืองไทยเป็นอย่างดี และชัดเจนมาก ถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆ

+++ความคืบหน้า เหตุระเบิดที่ อ.เบตง จ.ยะลา  กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงกรณี คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้นำรถตู้ทะเบียนป้ายเหลือง 10-1019 มาจอดเพื่อกันพื้นที่ เมื่อรถยนต์คันที่ประกอบระเบิดมาจอดที่จุดเกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อย คนร้ายได้เลื่อนรถตู้ออกจากที่เกิดเหตุและขับออกไป จนเกิดเหตุระเบิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่ารถตู้คันดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเหตุการณ์วางระเบิดคาร์บอมบ์  ล่าสุดจากการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสของคนร้ายที่ปล้นรถไปแล้ว โดยศาลจังหวัดยะลาได้อนุมัติหมายจับคดีปล้นรถยนต์ จำนวน 2 คน คือ นายอาบะห์ เจ๊ะอาลี และนายมะกอเซ็ง เจ๊ะมะ

+++นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยหลังประชุมแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) และการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปการทำแผนกู้วิกฤตทั้ง 2 หน่วยงาน เพราะแผนของการบินไทยยังไม่ชัดเจนเรื่องการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ขณะที่ ร.ฟ.ท.ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้แนวทางใดล้างขาดทุนสะสม การบริหารที่ดิน รวมถึงการชำระหนี้บำนาญที่การรถไฟฯต้องรับภาระไปอีก30 ปี วงเงิน 60,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงจะขอกระทรวงการคลัง ยืดเวลาส่งแผนฟื้นฟูวิกฤตทั้ง2 รัฐวิสาหกิจใหญ่ จากสัปดาห์นี้ไปเป็นสัปดาห์หน้า

+++นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน มิ.ย. 57 ว่า มีการส่งออกสินค้าไทย มีมูลค่า 19,842.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9  เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. 56 ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบปีนี้

เมื่อคิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 640,059.4 ล้านบาท  ขณะที่การส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 57 มีมูลค่า 112,704 ล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ 0.35  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  สาเหตุที่ทำให้มูลค่าการส่งออกเดือน มิ.ย. 57 กลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลจากมูลค่าการส่งออกในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ยังเชื่อว่า การส่งออกปี 57 จะเป็นไปตามเป้าหมายขยายตัวที่ร้อยละ  3.5  

ต่างประเทศ

+++นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่งาประเทศรัสเซีย แสดงความหวังว่า การสอบสวนสาเหตุการตกของเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครนจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งให้เกียรติฝ่ายที่อ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ นายลาฟรอฟกล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า การสอบสวนที่คณะผู้สอบสวนคดีนี้ดำเนินการอย่างสุจริตและเปิดเผยเท่านั้นจึงจะถือว่าทำตามขั้นตอนปกติ พร้อมเพิ่มเติมว่า หากมีประเด็นอื่นๆนอกเหนือไปจากนี้ รัสเซียจะถือว่ามีความพยายามใช้เล่ห์กลเบี่ยงเบนผลการสอบสวน เพื่อทำให้ฝ่ายที่อ้างตนเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ในสถานะเป็นผู้ต้องสงสัย

+++รัฐบาลมาเลเซียจัดงานฉลองวันตรุษอีดิ้ลฟิตรีหลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ในวันนี้ โดยนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค กล่าวแสดงความเสียใจและเห็นใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินโดยสารมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบินเอ็มเอช 17 ตก และผู้เสียชีวิตจากเหตุเที่ยวบินเอ็มเอช 370 หายสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม  ขณะที่บรรดาญาติมิตรของผู้โดยสารเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย 43 คน ได้สวดมนต์ไว้อาลัยให้แก่คนเหล่านั้น

หุ้นไทยและต่างประเทศ

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ ที่ 1,538.13 จุด ลดลง 5.72 จุด มูลค่าซื้อขาย 47,461.51 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 147.09 ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดเพิ่มขึ้น 71.53 จุด ที่ 15,529.40 จุด

 +++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้น 212.62 จุด ที่ 24,428.63 จุด