สปท.เสนอนายกฯเรียกสอบผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทอท.ปกปิดข้อมูลทำผิดพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ

การแถลงข่าวกรณีการทำสัญญาของบริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) กับบริษัท คิงเพาเวอร์ ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จังหวัดนครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการศึกษาเสนอและมาตรการและกลไกการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)กล่าวในกรณีที่นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ได้แถลงข่าวชี้แจง เรื่องการทำสัญญาบริหารพื้นที่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่เกินวงเงิน 1,000 ล้านบาท กับบริษัท คิงเพาเวอร์ เพราะได้ผ่านการคิดคำนวนโดยหลักสากล พร้อมจ้างบริษัทเอกชน 2 รายมาช่วยคิด จึงไม่เข้าข่ายการผิดพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุน ประกอบกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการยกคำตัดสินไปแล้วเมื่อปี 2554 นายชาญชัย ระบุว่า  เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากมีเอกสารของ ทอท. ยืนยันว่า ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการประเมินราคามูลค่าโครงการทั้งสองโครงการระหว่างบริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี กับบริษัทคิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ ในปี 2550 ระบุชัดว่ามูลค่าของสัญญาร้านค้าปลอดภาษีอากรที่เอกชนร่วมลงทุนพบว่ามีมูลค่า 2,432 ล้านบาท และโครงการร้านค้าเชิงพาณิชย์ มีมูลค่าร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนรวม  3,342 ล้านบาท ต่อมาบริษัท คิงเพาเวอร์ทั้งสองคู่สัญญารัฐ ได้ฟ้องร้องต่อศาลเรียกค่าเสียหาย หลังจากที่ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานบอร์ดทอท. โดยในคำฟ้องระบุชัดว่า โครงการดังกล่าวลงทุนตกแต่งและค่าเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งอุปกรณ์ 1,781 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมมูลค่าของสต็อกสินค้าคงคลัง

ต่อมาในปี 2551 คิงเพาเวอร์ ได้ทำสัญญายืนยันในข้อตกลงยอมความต่อศาล ทำให้ ทอท. ได้ว่าจ้างบริษัทดังกล่าวกลับมาทำสัญญากันทั้ง 2 บริษัท ตามพ.ร.บร่วมทุน ให้ถูกต้องต่อไป นายชาญชัย ระบุว่า ถือเป็นการให้ข้อมูลเท็จ  ซึ่ง ทอท.ไม่ได้นำข้อมูลในส่วนนี้ยื่นให้กับป.ป.ช. ทำให้ป.ป.ช.ยกฟ้อง นายชาญชัย ระบุว่า นายนิตินัย ทราบว่า ทอท.และคิงเพาเวอร์ ร่วมกันปกปิดข้อมูลที่เป็นเท็จ ไม่แจ้งต่อป.ป.ช.ถือเป็นความผิดตามกฎหมายทำให้การสอบสวนไม่ตรงตามข้อเท็จจริง จึงเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรเรียกสอบและเอาผิดกับนายนิตินัย รวมถึงคณะกรรมการที่อนุมัติ ในขณะนั้นรวม 30 คนและดำเนินการทบทวนพิจารณาในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเรื่องนี้เป็นการสร้างความเสียหายต่อรัฐ

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี