ปธน.ฟิลิปปินส์ กร้าวอาจจะประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ หลังเหตุปล้นวางเพลิงรีสอร์ทตายเพิ่มเป็น37

ความคืบหน้าเหตุคนร้ายบุกปล้นและเผาโรงแรมรีสอร์ท เวิลด์ มะนิลา ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ล่าสุด อาจจะขยายการบังคับใช้กฎอัยการศึกต่อไปอีก 1 ปี หรืออาจจะครอบคลุมทั่วประเทศ เนื่องจากในตอนนี้ ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกที่เกาะมินดาเนาจากเหตุกองทัพปะทะกับกลุ่มกบฎเมาเต   

เหตุการณ์ล่าสุด รีสอร์ทดังกล่าวเป็นทั้งโรงแรมและคาสิโนในเมืองปาเซย์ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์เมื่อราว01.00 น.เวลาวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มจาก 34 ศพเป็น 37 ศพ ในจำนวนนี้รวมถึงคนร้าย 1 ศพ ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ มีคนบาดเจ็บ54 คน ในกลุ่มผู้บาดเจ็บ 18 คน ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ไฟดับได้ทั้งหมดแล้ว แต่บริเวณโรงแรมยังปิดห้ามไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าออก เว็บไซต์มะนิลาไทมส์รายงานอ้างนายโรนัลด์ เดอ ลาโรซา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ว่ามือปืนที่ก่อเหตุบุกเดี่ยวเผาโรงแรมฯเมื่อเช้ามืดวันนี้เสียชีวิตแล้วในห้องพักของโรงแรมที่เกิดเหตุ คนร้ายได้พ่นแก๊สใส่ตัวเองแล้วจุดไฟเผาฆ่าตัวตายหนีความผิด

ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยสามารถเก็บกู้ศพอื่นๆทั้ง 37 ศพ ส่วนใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ ด้านกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)อ้างความรับผิดชอบ แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุว่าหลักฐานต่างๆที่มีอยู่บ่งชี้ว่าไม่ใช่การก่อการร้าย กลุ่มก่อการร้ายใดๆก็อาจจะแอบอ้างเพื่อโฆษณาชวนเชื่อได้ว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ตำรวจจะสอบสวนโดยยึดถือข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่เป็นหลัก ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานต่างๆ ระบุว่าเป็นคดีพยายามปล้นทรัพย์ ภาพจากกล้องซีซีทีวีในจุดเกิดเหตุบ่งชี้ว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว หากคนร้ายรายนี้เป็นผู้ก่อการร้ายหรือใช้ระเบิดแสวงเครื่องเพื่อโจมตี ความเสียหายอาจจะรุนแรงมากกว่านี้

ด้านสถานทูตสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียมีคำแจ้งเตือนเรื่องการเดินทางและส่งข้อความด่วนถึงพลเมืองของพวกเขาในฟิลิปปินส์ให้เพิ่มรอบคอบระมัดระวังและดูแลความปลอดภัยของตัวเองให้มากขึ้น ติดตามข่าวสารและทำตามข้อแนะนำของหน่วยงานท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด

ทีมต่างประเทศ

CR:AP