ตอลิบันปัดระเบิดกรีนโซน กรุงคาบูล/สหรัฐประชุมร่วมเอเชีย สุดสัปดาห์นี้ /ทรัมป์ถอนตัวโลกร้อน/น้ำมันดิ่งโลกต่ำสุดในรอบ3สัปดาห์

01 มิถุนายน 2560, 06:08น.


ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.



+++เหตุระเบิดในพื้นที่ความมั่นคงสูงหรือกรีนโซน ในกรุงคาบูล อัฟกานิสถาน เมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น  มีคนเสียชีวิต 80 ศพ บาดเจ็บ 350 คนรวมถึงผู้สื่อข่าวบีบีซี 2 คน บาดเจ็บถูกนำตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บในโรงพยาบาลหลายแห่งในละแวกใกล้เคียง บรรดาญาติได้ไปติดต่อสอบถามโรงพยาบาลเพื่อหารายชื่อญาติที่บาดเจ็บ เฟซบุ๊คได้เปิดใช้ฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ในกรุงคาบูลสามารถแจ้งเตือนญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงให้ทราบว่าพวกเขาปลอดภัยดีอยู่หรือไม่ ด้านกลุ่มตอลีบันปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุและยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ  เหตุระเบิดมีขึ้นหลังเข้าสู่ช่วงแห่งการถือศีลอดในเดือนรอมฏอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมได้ 2-3 วันและเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งในกรุงคาบูลในช่วงหลังๆมานี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายซุกซ่อนระเบิดไว้ในรถบรรทุกสำหรับขนส่งสินค้าคันหนึ่งที่คนร้ายขับไปจอดทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ ชนวนระเบิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. กองกำลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)ที่ปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนกองกำลังรัฐบาลอัฟกานิสถานชื่นชมความตื่นตัวเฝ้าระวังเหตุร้ายและความกล้าหาญของกองกำลังรัฐบาลอัฟกานิสถานสามารถขัดขวางไม่ให้รถบรรทุกคันดังกล่าวแล่นเข้าไปภายในเขตกรีนโซน เป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตหลายศพ พร้อมประณามว่าเป็นการโจมตีอย่างอำมหิตต่อพลเรือนอัฟกัน



+++นายอับราฮัม เดนมาร์ก อดีตรองผู้ช่วยรมต.กลาโหม รับผิดชอบเอเชียตะวันออกของสหรัฐฯว่า พล.อ.เจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯจะเสนอให้มีการร่วมมือกันให้มากขึ้นเพื่อป้องกันภัยคุกคามด้านอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือในการประชุมด้านความมั่นคงระดับภูมิภาคที่เรียกว่าแชงกรี-ลา ไดอะล็อก ที่จัดขึ้นในสิงคโปร์ในวันศุกร์นี้ คาดว่าสหรัฐฯจะย้ำให้เห็นว่าประเทศจีนได้ขยายอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆในทะเลจีนใต้



+++พ.อ.เรสติตูโต ปาดิลลา โฆษกกองทัพบกฟิลิปปินส์ว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงฟิลิปปินส์ได้สังหารกบฏเสียชีวิต 89 ศพระหว่างการปะทะกันกว่า 1 สัปดาห์ในเมืองมาราวี ชุมชนมุสลิมบนเกาะมินดาเนาทางภาคใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งประชากรส่วนมากนับถือศาสนาคริสต์ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฟิลิปปินส์สามารถรุกคืบเพื่อบุกยึดพื้นที่กลับคืนมาได้อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เหลือพื้นที่อีกร้อยละ 10 ที่ยังอยู่ในความควบคุมของฝ่ายกบฏ เจ้าหน้าที่คาดว่าการปะทะกันช่วงท้ายๆของการสู้รบในครั้งนี้จะยิ่งดุเดือดมากขึ้นเนื่องจากคนร้ายพยายามจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อปกป้อง 3 แกนนำกลุ่มไม่ให้ถูกจับกุมและคนร้ายอาจจะจับชาวบ้านเป็นตัวประกันด้วย ก่อนหน้านี้ เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพฟิลิปปินส์ยิงจรวดโจมตีที่มั่นฝ่ายกบฏในหลายท้องที่ของเมืองมาราวีเมื่อเช้าวานนี้ โดยกบฏกลุ่มนี้สู้รบโดยใช้ธงดำกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในอิรักและซีเรียเป็นตราสัญลักษณ์



+++สำนักโพลยูก็อฟ( YouGov )ออกผลสำรวจล่าสุดชี้ รัฐสภาอังกฤษอาจเข้าสู่ภาวะไม่มีเสียงเด็ดขาด ที่ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งทั่วไปในสัปดาห์หน้า ส่วนพรรคคอนเซอร์เวตีฟของเทเรซา เมย์ ส่อหลุดยก 20 ที่นั่ง หมดสิทธิ์คุมเสียงข้างมากในสภาล่างสำเร็จ ส่งผลทำให้ตลาดวิตก ทำค่าสกุลเงินปอนด์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวให้ความเห็นในเรื่องผลโพลนี้ว่า ผลโพลที่จะยอมรับได้คือ การเลือกตั้งวันที่ 8 มิ.ยเท่านั้น และประชาชนจะมีทางเลือกในการตัดสินใจว่าพวกเขาหรือเธอต้องการที่จะเห็นใครเพื่อเป็นผู้นำคนใหม่ ใครที่ต้องการที่จะได้เห็นในฐานะนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เพื่อนำประเทศนี้ไปในอนาคต ดิฉันหรือเจรามี คอร์บีน(พรรคแรงงานอังกฤษ)



+++ราคาน้ำมันดิ่งแรง 1.50 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์  สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.31 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(31พ.ค.) ปรับลดเล็กน้อย จากแรงฉุดของกลุ่มธนาคาร ขณะที่รายงานของเฟด กัดเซาะมุมมองทางบวกของบริษัทต่างๆทั่วอเมริกา  ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 20.82 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,008.65 จุด รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่เปิดเผยในวันพุธ(31พ.ค.) ระบุว่าในขณะที่บรรยากาศของตลาดยังคงเป็นความรู้สึกในแง่บวกอย่างกว้างขวาง แต่ความไม่แน่นอนด้านการค้าและนโยบายอื่นๆของรัฐบาลกำลังเป็นตัวถ่วงมุมมองในทางบวกในบางภูมิภาค  ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(31พ.ค.) ขยับขึ้นแรง หลังนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,275.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์



++++ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียในวันพุธ(31พ.ค.) ลงนามในกฤษฎีกา ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกี ในด้านการทำธุรกิจและฟรีวีซา ที่กำหนดขึ้นเพื่อตอบโต้กรณีอังการายิงเครื่องบินรบรัสเซียตกตามแนวชายแดนซีเรียเมื่อช่วงปลายปี 2015 รวมถึงการยกเลิกคำสั่งห้ามบริษัทก่อสร้างและบริษัททัวร์ของตุรกีดำเนินธุรกิจในรัสเซีย ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2016 ยกเลิกมาตรการห้ามเหล่าบริษัทต่างๆของตุรกีในการนำแรงงานใหม่ๆจากตุรกีเข้ามายังรัสเซีย ทั้งหมดนี้ คือ ข้อตกลงอย่างเป็นทางการที่เห็นพ้องกันระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ผู้นำตุรกี ในการหารือกันก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม



+++แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมถอนชื่อสหรัฐฯออกจากข้อตกลงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ลงนามไว้ในกรุงปารีส ฝรั่งเศสเมื่อปี 2558 นายทรัมป์ ปฏิเสธที่จะย้ำว่าสหรัฐฯมุ่งมั่นจะทำตามข้อตกลงนี้หรือไม่ระหว่างการประชุมกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกหรือกลุ่มจี-7 ในอิตาลีเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ระบุว่าเขาจะตัดสินใจเรื่องนี้หลังการเดินทางกลับสหรัฐฯแล้ว  ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวถึงข้อตกลงเรื่องนี้ว่าหลอกให้คนหวาดกลัวมากเกินไป และมีรายงานว่าเขายังคงย้ำจุดยืนนี้กับกลุ่มคนใกล้ชิดมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ ประเทศต่างๆเกือบ 200 ประเทศได้ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ทั่วโลก



++++นายซันจุคตา ซาฮานี ผู้บริหารสาขาท้องถิ่นขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน องค์กรการกุศลระดับนานาชาติว่าอิทธิพลของพายุไซโคลนโมราที่พัดถล่มในแถบชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังคลาเทศ มีคนเสียชีวิต 6 ศพ บ้านเรือน 17,000 หลังได้รับความเสียหาย เช่นเดียวกับบ้านพักชั่วคราวอีก 16,010 หลัง ภายในศูนย์อพยพชาวโรฮิงญาในเมืองค็อกซ์บาซาร์ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในปัจจุบันมีผู้อพยพในศูนย์ฯแห่งนี้จำนวน 3 แสนคน ขณะนี้เริ่มประสบปัญหาวิกฤติคือขาดแคลนอาหาร ที่พักพิง สถานพยาบาล น้ำดื่มและสุขอนามัย ผู้อพยพกลุ่มนี้อาศัยอยู่อย่างแออัดในค่ายอพยพ หลังหนีเหตุรุนแรงมาจากประเทศเมียนมาร์ เพื่อนบ้าน ด้านผู้อพยพ กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้รับการเตือนภัยเรื่องพายุล่วงหน้า จึงไม่สามารถจะกักตุนเสบียงอาหารไว้ทานในช่วงที่ออกจากการถือศีลอดในเดือนรอมฏอนของชาวมุสลิมในช่วงนี้ พายุลูกนี้เกิดขึ้นหลังฝนตกอย่างหนักในศรีลังกา ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 10 ปี มีคนเสียชีวิตกว่า 200 ศพ สำหรับเอเชียใต้ เกิดเหตุน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีเมื่อเข้าสู่ฤดูมรสุมประจำปีคือระหว่างพฤษภาคมถึงกันยายน

ข่าวทั้งหมด

X