การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จัดฝึกซ้อมใหญ่การกู้ภัยและให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุร้ายแรงบนทางพิเศษ ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษเชียงราก ทางพิเศษอุดรรัถยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกู้ภัย การจัดการจราจร และการประสานงานการสื่อสาร โดยขั้นตอนการฝึกซ้อมจะเป็นการสร้างสถานการณ์จำลอง ให้รถปิคอัพเฉี่ยวชนกับรถโดยสาร มีสารเคมี UN.1268 เป็นแก๊สควันสีขาวรั่วไหล และมีผู้บาดเจ็บ4คน จากนั้นมีผู้ขับขี่โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เบอร์ 1584
ในการฝึกซ้อมได้สาธิตตั้งแต่ขั้นตอนการประสานงานให้ความช่วยเหลือ การดับเพลิง การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และการเก็บกู้สารเคมี ไฮไลท์อยู่ที่การนำรถจักรยานยนต์ดับเพลิงยี่ห้อ Kawasaki รุ่น Versys ขนาด 600 ซีซี ราคาคันละ 1.474 ล้านบาท ที่เพิ่งส่งมอบไปเมื่อวันที่21ก.ค. มาสาธิตการดับเพลิง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าในสถานการณ์เดียวกัน รถจักรยานยนต์สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้เร็วกว่า และใช้เวลาดับเพลิงด้วยสารเคมีไม่ถึง1นาทีเมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ขณะที่รถดับเพลิงยังตัองใช้น้ำดับเพลิงและกินเวลามากกว่า5นาที
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการกทพ. เปิดเผยว่า กทพ.เน้นเรื่องความปลอดภัยมากที่สุด จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุปีงบประมาณ 2557 จนถึงขณะนี้เกิดขึ้น 860 ครั้ง คาดว่าจะลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2556 ที่มีมากถึง 1,827 ครั้ง อีกทั้งจากการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พบว่า ผู้ใช้ทางพิเศษพอใจกับระบบกู้ภัยของกทพ.มากถึงร้อยละ 91 ดังนั้นกทพ.จะรักษามาตรฐานได้การฝึกซ้อมใหญ่ปีละ 2 ครั้ง รวมถึงการเพิ่มศักยภาพด้านอุปกรณ์ให้ผู้ปฏิบัติ เพื่อให้ผู้ใช้ทางพิเศษมั่นใจในความปลอดภัย หากเกิดเหตุฉุกเฉินบนทางพิเศษ เพียงโทรศัพท์.1543 จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน
...ผสข.อภิสุข เวทยวิศิษฐ์