เสร็จสิ้นการประชุมผู้นำกลุ่มจี 7 ผู้นำสหรัฐฯ ยื้อเวลาตัดสินใจลดคาร์บอน

การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศร่ำรวย 7 ประเทศ หรือ จี 7 ซึ่งประกอบด้วย ผู้นำสหรัฐฯ เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา อิตาลี สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น สิ้นสุดลงแล้ววานนี้ โดยที่บรรดาผู้นำกลุ่มประเทศจี 7 ยังคงเห็นต่างเรื่องมาตรการลดปัญหาโลกร้อน ขณะเดียวกันก็เห็นพ้องด้านความร่วมมือทางการค้า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศให้คำมั่นในการต่อสู้กับสถานการณ์การปกป้องคุ้มครองการค้า และพร้อมจะให้สหรัฐฯ ปฏิบัติตามระบบระเบียบการค้าระหว่างประเทศ ท่ามกลางกระแสกดดันจากความวิตกต่อคำประกาศก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีทรัมป์ว่า สหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงทางการค้าเสรี และการตั้งกำแพงภาษีกับสินค้ากับเม็กซิโกและจีน ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงประวิงเวลาในการตัดสินใจลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยอ้างว่าต้องการเวลาในการพิจารณาเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่คาดว่าจะตัดสินใจในสัปดาห์หน้า

ด้านนายกรัฐมนตรีอังเกลา  แมร์เกิล แห่งเยอรมนีกล่าวว่าไม่มีสัญญาณบ่งชี้ได้ว่าสหรัฐฯ จะตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างไร นอกจากการหารือของผู้นำกลุ่มประเทศร่ำรวย 7 ประเทศแล้ว การประชุมในครั้งนี้ซึ่งจัดขึ้นในอิตาลี ยังมีผู้นำจากกลุ่มประเทศแอฟริกาเข้าร่วมด้วย 5 ประเทศเพื่อร่วมหารือถึงวิกฤตการณ์ผู้อพยพเข้าสู่ยุโรป โดยประธานาธิบดีมาฮามาดู อิสซูฟู ผู้นำไนเจอร์เรียกร้องให้จี 7 ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อยุติสถานการณ์ความรุนแรงในลิเบีย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการอพยพสู่ยุโรป นอกจากนั้นที่ประชุมยังหารือถึงสถานการณ์ในซีเรียและเกาหลีเหนือด้วย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เดินทางกลับสหรัฐฯ ในทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการแถลงข่าวสรุปการประชุม ซึ่งต่างจากผู้นำกลุ่มจี 7 อื่นๆ และนับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะผู้นำสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์

**7.17F174**