ซีเอ็นเอ็นรายงานแถลงการณ์ของนายเกรกอรี บรูเกอร์ อัยการประจำอำเภอมินนิโซตา เมืองเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา ทางภาคเหนือของสหรัฐฯว่าพนักงานอัยการได้แจ้งข้อหาสมาชิกขบวนการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศรวม 21 คนประกอบด้วยคนไทย 10 คนและพลเมืองสหรัฐฯ 11 คนว่า มีความผิด 8 ข้อหารวมถึงการบังคับหญิงไทยหลายร้อยคนให้เดินทางเข้าไปทำงานเป็นทาสทางเพศยุคใหม่ในสหรัฐฯ,ข้อหายักยอกทรัพย์และฟอกเงิน ระบุว่าเป็นการจับกุมเพิ่มเติมจากผู้ต้องหาอีก 17 คนในขบวนการเดียวกันที่ถูกจับกุมเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ในจำนวนนี้ 3 คนให้การรับสารภาพว่าทำความผิดจริงตามข้อกล่าวหา
สำนวนสอบสวนของพนักงานอัยการที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ทำให้ทราบรายละเอียดของการทำความผิดในคดีนี้ว่าย้อนหลังไปเมื่อปี 2552 มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้เสียหายคือหญิงไทยที่ถูกล่อลวงไปค้าประเวณีในสหรัฐฯให้เสื่อมเสียเสรีภาพจนกว่าจะยอมจ่ายใช้หนี้ขัดดอกสูงถึง 6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากหนี้ค่าขัดดอกแล้ว ยังต้องจ่ายหนี้ค่าผ่าตัดเสริมความงาม ที่ทำการเสริมความงามเพื่อให้เป็นที่ดึงดูดใจสำหรับลูกค้าในสหรัฐฯด้วย ทั้ง 21 คนถูกจับกุมในหลายท้องที่ รวมถึงนครลอสแอนเจลิส, ซานดิเอโก,ดัลลัส ออสติน,ฮิวสตันและเมืองชิคาโก ผู้ต้องหาอีก 1 คนยังคงหลบหนีการจับกุม ขบวนการนี้เริ่มดำเนินการระหว่างเดือนมกราคม 2552 ถึงพฤษภาคมปีนี้ มีการล่อลวงหญิงหลายร้อยคนจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย เข้าไปค้าประเวณีในหลายเมืองของสหรัฐฯรวมถึงมินนีแอโพลิส,ลอสแอนเจลิส,ชิคาโก,แอตแลนตา,ฟีนิกซ์,กรุงวอชิงตันดีซี, ลาสเวกัส,ดัลลัส ออสติน,ฮิวสตันและเมืองซีแอตเทิล
ด้านนายโธมัส ดาร์ท นายอำเภอเทศมณฑลคุ๊กเคาน์ตี รัฐอิลลินอยส์ซึ่งร่วมปฏิบัติจับกุมในครั้งนี้ด้วยกล่าวว่าสตรีที่ถูกล่อลวงไปค้าประเวณีในสหรัฐฯมาจากกลุ่มสตรีที่ด้อยโอกาสในสังคม คือมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจนมาก พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย หลงเชื่อคำหลอกลวงว่าถ้าไปค้าประเวณีในสหรัฐฯ พวกเขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นและรายได้มั่นคงในสหรัฐฯ จะมีเงินมาชำระหนี้ได้ในเวลารวดเร็วและมีเงินเหลือที่จะส่งกลับบ้าน สำนวนสอบสวนระบุว่าผู้เสียหายเองก็ทราบตั้งแต่อยู่ในประเทศไทยแล้วว่า พวกเขาจะไปทำการค้าประเวณีในสหรัฐฯ เมื่อเดินทางถึงสหรัฐฯ พวกเขาถูกบังคับให้ค้าประเวณีทั้งวัน ทุกวัน บางวันต้องหลับนอนกับแขกมากถึง 10 คนหรือมากกว่า และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากสถานบริการทางเพศโดยไม่มีคนจากขบวนการค้ามนุษย์คอยตามประกบ แม้ว่าบางคนจะพยายามหลบหนี สตรีที่เสียหายและครอบครัวของพวกเธอในประเทศไทยจะถูกข่มขู่คุกคาม เพื่อบังคับให้พวกเธอกลับไปทำงาน สำนวนสอบสวนเรียกผู้เสียหายกลุ่มนี้ว่าเป็นเสมือนทาสทางเพศยุคใหม่