รมว.กลาโหม สั่งเหล่าทัพช่วยน้ำท่วม/เริ่มยื่นซองประกวดรถเมล์เอ็นจีวี/ปธน.ฟิลิปปินส์ อาจขยายกฎอัยการศึกทั่วประเทศ

25 พฤษภาคม 2560, 13:28น.


+++พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผ่านไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติจากพายุฝนที่กำลังเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ตรวจสอบระบบระบายและเก็บกักน้ำที่จัดทำขึ้นให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขังและดินถล่มให้ทันต่อเหตุการณ์ โดยให้ประสานและสนับสนุนส่วนราชการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด     พล.ต.คงชีพ กล่าวด้วยว่า สำหรับการฝึกนักศึกษาวิชาทหารและการเรียกกำลังพลสำรองบางส่วน ที่จะเข้ารับการฝึกตามแผนเรียกพลประจำปี 60 ให้ทุกเหล่าทัพดำเนินการฝึก และให้ความรู้แก่นักศึกษาวิชาทหารและกำลังพลสำรอง ในการบรรเทาสาธารณภัยควบคู่กันไป เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน ในภาวะวิกฤตของทุกภัยพิบัติ โดยเฉพาะอุทกภัยที่เกิดขึ้นในทุกปี



+++พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก จัดกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 1,กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์  (พล ม.2 รอ.) กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์, หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก(นปอ.) ออกอำนวยความสะดวกและช่วยประชาชนในงานจราจร ทั้งช่วยเข็นรถที่จอดเสีย เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร ตามเส้นทางต่างๆและรับส่งนักเรียนที่ไม่สามารถเดินทางเข้าโรงเรียนได้เพราะน้ำท่วมขัง



+++นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกระหว่างวันที่ 25-28 พ.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในระยะแรกเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ จากนั้นภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด



+++ส่วนฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่ง โดยตั้งแต่วันที่ 16 - 23 พ.ค. มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 15 จังหวัด รวม 52 อำเภอ 176 ตำบล 989 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,059 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 5 ศพ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ 2 จังหวัด 9 อำเภอ 57 ตำบล 406 หมู่บ้าน ได้แก่ สุโขทัย น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสำโรง อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอคีรีมาศ อำเภอศรีนคร อำเภอสวรรคโลก อำเภอทุ่งเสลี่ยม อำเภอบ้านด่านลานหอย และอำเภอกงไกรลาศ รวม 56 ตำบล 405 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 17,119 ครัวเรือน 39,654 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 17,655 ไร่ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอคีรีมาศ รวม 5 ตำบล โดยระดับน้ำเริ่มลดลง ลำปาง น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเสริมงาม (หมู่ที่ 8 ตำบลเสริมซ้าย) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว



+++ความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) 489 คัน นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15-19 พ.ค. ได้นำประกาศร่างเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) ขึ้นเว็บไซต์ เพื่อประชาพิจารณ์เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งไม่มีข้อท้วงติง คณะกรรมการร่างทีโออาร์ฯ จึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงทีโออาร์ โดยมีราคากลาง 4,021 ล้านบาท และระยะเวลาในส่งมอบ 90 วันเหมือนเดิม วางเป้าหมายว่าวันที่ 25-30 พ.ค. นี้จะเริ่มกระบวนการเปิดให้เอกชนยื่นซองประกวดราคา คาดว่าเดือน มิ.ย.นี้ จะได้เอกชนที่ชนะการประมูลโครงการ ไม่เกินเดือน ก.ค. นี้ ลงนามสัญญาและส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีทั้ง 489 คัน ได้ไม่เกินวันที่ 31 ต.ค.ตามที่วางกรอบเวลาไว้



+++ส่วนความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถโดยสารไฟฟ้า 200 คันนั้น วันที่ 26 พ.ค. จะประชุมพิจารณาปรับปรุงร่างทีโออาร์การจัดซื้อรถโดยสารไฟฟ้า 200 คัน หลังจากให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่ปรึกษาโครงการไปทบทวนราคากลาง 2,702 ล้านบาท รวมทั้งศึกษารายละเอียดคุณสมบัติของตัวรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มเติม เช่น ราคาแบตเตอรี่ ที่ต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ จะหารือที่ประชุมด้วยว่าจะรอข้อสรุปแนวทางส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ หรือไม่ เพราะถ้านานเกินไปจะไม่ทันกับแผนการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าดังกล่าวของ ขสมก. ที่ต้องเร่งรัดดำเนินการให้รวดเร็ว โดยจะแบ่งเป็น 4 ล็อต ล็อตละ 50 คัน คือ ล็อตแรก ธ.ค. 2560 จำนวน 50 คัน ล็อต 2 ก.พ. 2561 จำนวน 50 คัน ล็อต 3เม.ย. 2561 จำนวน 50 คัน และล็อตสุดท้าย มิ.ย. 2561 อีก 50 คัน อย่างไรก็ตาม การผลิตรถเมล์ไฟฟ้าในประเทศต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี จึงจะรับรถเมล์ไฟฟ้าได้ครบทั้ง 200 คัน



+++จากเหตุมือระเบิด 2 คน จุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายห่างกันในเวลาเพียง 5 นาที บนถนนใกล้สถานีรถโดยสารกัมปุง เมลายู ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา เมื่อเวลา 21.00 น. เมื่อคืนนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในที่เกิดเหตุเสียชีวิตหลายนาย และมีตำรวจรวมถึงพลเรือนได้รับบาดเจ็บอีกร่วม 10 คน

หัวหน้าสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงจาการ์ตา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมหลักฐานแล้ว เชื่อว่ามือระเบิดที่ก่อเหตุมี 2 คน ไม่ใช่เพียงแค่คนเดียวตามที่คาดการณ์ในตอนแรก ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าได้ยินเสียงระเบิดขณะขี่รถจักรยานยนต์ใกล้ที่เกิดเหตุ ทำให้ผู้คนจำนวนมากแตกตื่นวิ่งหนีตาย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่เชื่อว่าคนร้ายพุ่งเป้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ อินโดนีเซียอยู่ในช่วงระวังภัยก่อการร้าย หลังเกิดเหตุโจมตีในประเทศหลายครั้งเชื่อว่า เป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธในประเทศที่ได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)  



+++ด้านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ขอให้ชาวไทยในอินโดนีเซียหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ติดตามข่าวสารจากทางการอินโดนีเซีย และสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยในกรณีฉุกเฉิน สามารติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลข +62 811 186253



+++ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ไม่เคยมีความลังเลใจในการลงมือทำสิ่งใดก็ตาม หากสิ่งนั้นสามารถปกป้องและป้องกันฟิลิปปินส์ ให้รอดพ้นจากภัยคุกคามได้  ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่เขากำลังพิจารณาอยู่นั้น คือการขยายคำสั่งกฎอัยการศึกให้มีผลครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมทั้งเตือนว่ากฎอัยการศึกในยุคของเขาจะ รุนแรง ในระดับเดียวกับการใช้กฎอัยการศึกในสมัยประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส



+++ขณะเดียวกัน ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวถึงรายละเอียดบางส่วนของกฎอัยการศึก ว่ารวมถึงการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย และจับกุมบุคคลซึ่งมีท่าทีไม่ชอบมาพากลได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุมัติหมายจับจากศาล และอาจมีการประกาศเคอร์ฟิวในบางจังหวัดบนเกาะมินดาเนา ส่วนกฎอัยการศึกจะยังคงมีผลจนกว่าภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในพื้นที่จะยุติ ซึ่งเบื้องต้นจะมีผลทันที 60 วัน แต่กฎหมายระบุว่าหากต้องการขยายเวลาให้นานกว่านั้นจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาก่อน



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X