อังกฤษรวบผู้ต้องสงสัยและพ่อมือระเบิด/ชาวจีนถูกลักพาตัวในปากีสถาน/น้ำมันโลกลด- หุ้นสหรัฐฯเพิ่ม

+++สำนักข่าวรอยเตอร์ เอพีและเอเอฟพีรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่า เกิดเหตุระเบิดดังสนั่น 2 ครั้ง ในเวลาห่างกันประมาณ 5 นาที ที่บริเวณสถานีขนส่งในเขตกัมปุง เมลายู ในกรุงจาการ์ตาฝั่งตะวันออก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. คืนวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น เซตโย วาซิสโต โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย กล่าวว่า ตำรวจเสียชีวิต 3 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 10 คน เป็นตำรวจ 5 คน และพลเรือน 5 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง บีบีซี รายงานว่า มีผู้ต้องสงสัยอีก 2 คนที่เสียชีวิตด้วย

+++เซตโย เปิดเผยว่า เหตุเกิดขณะที่ตำรวจกำลังจัดแถวริมถนน คอยรักษาความสงบ สำหรับขบวนพาเหรดที่จะเคลื่อนผ่าน แต่เสียงระเบิดดังขึ้นขณะที่ขบวนพาเหรดยังมาไม่ถึง ประชาชนเกิดความแตกตื่น เนื่องจากมีประชาชนรอชมขบวนพาเหรดอยู่ 2 ฟากถนน จากการตรวจที่เกิดเหตุเบื้องต้นดูเหมือนจะเป็นการก่อเหตุของมือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คน ผู้ชายทั้งคู่ และเสียชีวิตในการโจมตีครั้งนี้ทั้งคู่ +++อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีประชากรเป็นชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก ถูกโจมตีหลายครั้ง โดยกลุ่มแนวร่วมของกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก โดยครั้งรุนแรงที่สุดเกิดเมื่อเดือน ม.ค. 2559 แนวร่วมกลุ่มไอเอสบุกโจมตีด้วยปืนและระเบิด ในย่านใจกลางกรุงจาการ์ตา มีผู้เสียชีวิต 8 คน เป็นกลุ่มคนร้าย 4 คน และพลเรือน 4 คน

+++กองกำลังต่อต้านก่อการร้ายของลิเบีย ควบคุมตัว นายรามาดาน อบีดี บิดาของซัลมาน อบีดี มือระเบิดฆ่าตัวตาย บริเวณนอกบ้านของเขาในย่านอีน ซารา แถบชานกรุงตริโปลี ก่อนหน้านี้ กองกำลังดังกล่าวที่มีชื่อเรียกว่า ราดา ได้ควบคุมตัวนายฮาเซม อบีดี น้องชายของนายซัลมาน เมื่อช่วงเย็นวันอังคาร ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) อย่างไรก็ตามทาง อาห์เมด บิน เซมเลม โฆษกของกองกำลังต่อต้านก่อการร้ายลิเบีย ไม่ได้เหตุผลว่าทำไมผู้เป็นบิดาถึงถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีหลักฐานว่า นายฮาเซม เคยติดต่อกับนายซัลมาน และต้องสงสัยว่ากำลังวางแผนโจมตีในเมืองหลวงของลิเบีย

+++รอยเตอร์ รายงานว่า นายรามาดาน เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายเมื่อ 5 วันก่อนและทุกอย่างก็ดูเป็นปกติดี โดยลูกชายบอกว่ากำลังพาครอบครัวไปแสวงบุญที่นครเมกกะ นายรามาดาน ยังแสดงความมั่นใจด้วยว่า นายซัลมาน ไม่ได้เป็นสมาชิกของไอเอส นายซัลมาน วัย 22 ปี เกิดในอังกฤษในครอบครัวชาวลิเบีย ขณะที่กระทรวงมหาดไทยอังกฤษ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าเขาเพิ่งเดินทางกลับมาจากลิเบียและดูเหมือนจะไม่ได้ลงมือเพียงลำพัง

+++ความคืบหน้าในอังกฤษ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวบุคคลรายที่ 6 ซึ่งเป็นผู้หญิงและรายที่ 7 ในความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในแมนเชสเตอร์เมื่อวันจันทร์(22พ.ค.) หลังจากปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นบริเวณทางเหนือของเมือง การตรวจค้นเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีที่แมนเชสเตอร์ อารีนา เมื่อวันจันทร์ แต่ในขั้นนี้การสืบสวนของเรายังคงเปิดกว้างอยู่

+++ด้านนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะตัดลดกำหนดการร่วมประชุมจี7 ในอิตาลีสัปดาห์นี้ เนื่องจากเหตุโจมตีในแมนเชสเตอร์ โดยเธอน่าจะเดินทางกลับในช่วงเย็นวันศุกร์

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่านางชาร์ลอตต์ แคมป์เบลล์คุณแม่ชาวอังกฤษซึ่งรอรับโทรศัพท์มา 1 วันในที่สุดก็ได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าน.ส.โอลิเวีย ลูกสาววัย 15 ปีเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต 22 ศพจากเหตุระเบิดในงานแสดงคอนเสิร์ตของอารีนา กรานเด นักร้องสาวชาวอเมริกันในแมนเชสเตอร์ อารีน่า ในเมืองแมนเชสเตอร์ น.ส.โอลิเวียหายไปตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุ คุณแม่เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวได้โทรศัพท์ไปเล่าให้คุณแม่ทราบว่ารู้สึกมีความสุขมากที่ได้เข้าชมการแสดงคอนเสริ์ตที่แมนเชสเตอร์ อารีน่า บอกว่ากำลังรอกรานเดปรากฏตัวบนเวที เธอขอบคุณคุณแม่มาก เป็นคำพูดสุดท้ายจากลูกสาว คุณแม่พูดพร้อมทั้งเอามือปาดน้ำตา หลังทราบว่าเกิดเหตุระเบิด นางแคมป์เบลล์ ได้แจ้งความกับตำรวจ โทรศัพท์ถึงโรงพยาบาลในท้องถิ่นหลายแห่งเพื่อสอบถามเกี่ยวกับลูกสาว พร้อมร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ โพสต์ภาพและลักษณะรูปร่างของลูกสาวทางเฟซบุคและทวีตเตอร์

+++นายอันวาร์ อุล ฮัก คาการ์ โฆษกประจำสำนักผู้ว่าการจังหวัดบาลูชิสถาน ปากีสถาน เปิดเผยว่า สามีภรรยาครูสอนภาษาชาวจีน ถูกกลุ่มคนร้ายแต่งกายเลียนแบบตำรวจ ดักจี้บังคับลักพาตัวไป บนถนนในเมืองเควตตา เมืองเอกของจังหวัดบาลูชิสถาน เมื่อวันพุธ โดยชายชาวปากีสถานคนหนึ่งที่ทำหน้าที่คุ้มกัน 2 สามีภรรยาถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ  หลังเกิดเหตุเอกอัครราชทูตจีนในกรุงอิสลามาบัด และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ของจีน ได้เรียกร้องต่อรัฐบาลปากีสถาน ให้ปรับปรุงความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดบาลูชิสถาน ที่ซึ่งจีนกำลังสร้างท่าเรือใหม่ และให้เงินทุนสร้างถนน อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระเบียงเศรษฐกิจ จีน-ปากีสถาน มูลค่า 57,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเชื่อมต่อภาคตะวันตกของจีน กับชายฝั่งทะเลอาหรับของปากีสถาน    

 +++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 11 เซนต์ ปิดที่ 51.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 53.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ปิดบวกเล็กน้อย ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 74.51 จุด ปิดที่ 21,021.42 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.97 จุด ปิดที่ 2,404.39 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 24.31 จุด ปิดที่ 6,163.02 จุด วอลล์สตรีท ซื้อขายผันผวนหลังธนาคารกลางสหรัฐฯเปิดเผยรายงานการประชุม แต่ท้ายที่สุดก็แกว่งตัวปิดบวกเล็กน้อย จากแรงหนุนของกลุุ่มธนาคารที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

+++ราคาทองคำ ปิดลบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน จากแรงกดดันของความคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,253.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

CR:CNN