หลังศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยค่าเสียหายทางแพ่ง คดีดำ กล.142/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอัครณัฐ หรือน็อต อริยฤทธิ์วิกุล อายุ 29 ปี อดีตพิธีกรดังรายการเวคคลับ และนายวิทวัส ศรีบัณฑิตมงคล อายุ 29 ปี เพื่อนนายอัครณัฐ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส จากเหตุการณ์ที่นายกิตติศักดิ์ หรือบอย สิงห์โต พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคู่กรณีได้ขี่รถจยย.เฉี่ยวชนรถยนต์ยี่ห้อ "มินิ" ของนายอัครณัฐ บริเวณปากซอยเจริญกรุง 44 แขวง-เขตบางรัก แล้วนายอัครณัฐได้ใช้ฝ่ามือตบ-ต่อยที่ใบหน้าและบังคับให้กราบรถยนต์มินินั้
ล่าสุด หลังจากใช้เวลาไกล่เกลี่ยนานเกือบ 3 ชั่วโมงแล้วเสร็จ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความของนายกิตติศักดิ์ เปิดเผยว่า ศาลได้อธิบายคำฟ้องให้กับนายอัครณัฐและเพื่อนได้ทราบ ซึ่งนายอัครณัฐและเพื่อนได้แสดงสปิริตที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป พร้อมให้เงินเยียวยาแก่นายกิตติศักดิ์ที่จะต้องใช้ผ่าตัดใหม่อีกครั้ง รวม 180,000 บาท และศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ต้องขอบคุณที่นายอัครณัฐและเพื่อนแสดงความรับผิดชอบจ่ายเงินเยียวยา ตนจึงขอโอกาสให้กับนายอัครณัฐด้วย เมื่อเขากล้าทำก็กล้ารับถือเป็นลูกผู้ชาย ส่วนคดีของนายกิตติศักดิ์ที่เฉี่ยวชนนั้น ก็ต้องไปฟังกันอีกครั้งว่าพนักงานอัยการจะมีความเห็นแย้งพนักงานสอบสวนหรือไม่ เพราะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ฯ ยอมความไม่ได้
ด้านนายอัครณัฐ กล่าวว่า ขอขอบคุณศาล ผู้ไกล่เกลี่ย และสื่อมวลชนทุกคน ที่ทำให้มีโอกาสได้ไกล่เกลี่ยพูดคุยกับนายกิตติศักดิ์อย่างเป็นรูปธรรม รู้สึกดีใจที่วันนี้มาถึง เป็นเรื่องที่ดีมากที่มีกระบวนการไกล่เกลี่ย อย่างน้อยเราทะเลาะกันเป็นเรื่องอดีต ปัจจุบันเมื่อเราได้พูดคุยกันแล้วจบ ก็ดีกับทุกฝ่าย ส่วนตัวขณะนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่บ้านเปิดซีรีส์ให้แม่ดูอย่างเดียว ส่วนธุรกิจร้านอาหารก็ถือว่าแย่ ฝากทุกคนว่าร้านอาหารนั้นมีหลายคนที่เกี่ยวข้อง เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่อถามต่อไปว่าหากมีผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสกลับไปวงการบันเทิง นายอัครณัฐ กล่าวว่า “ถ้าผู้ใหญ่เอ็นดูและยินดีก็ขอกราบขอบพระคุณครับ”
ส่วนเรื่องอุบัติเหตุแบบนี้มีทุกวัน ลงมาดูแลกัน คุยกันด้วยดี จะดีกว่าครับ อย่าให้มันยืดเยื้อเสียเวลา เพราะไม่ใช่เรื่องแค่ 2 คนแล้ว แต่กลายเป็นเรื่องของคนในครอบครัว ให้มันจบกันที่ 2 คนดีกว่า สติสำคัญที่สุด หากตนมีรถคันใหม่จะตั้งชื่อว่า "สติ" ครับ” ขณะที่นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้สังคมให้อภัยพี่เขา เพราะคนเราทำผิดกันได้ แม้แต่ผมก็ทำผิดได้ จากนั้นนายอัครณัฐและนายกิตติศักดิ์ได้จับมือแสดงถึงการให้อภัยกัน ก่อนแยกย้ายกันกลับไป.