+++คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ มีมติเห็นชอบโดยอนุมัติอัตราบรรจุพยาบาล จำนวน 10,992 อัตรา แบ่งเป็นบรรจุในอัตราที่ว่าง 2,200 อัตรา ส่วนที่เหลือ 8,792 อัตรา จะเฉลี่ยบรรจุปีละ 2,900 อัตรา ครม.อนุมัติอัตราตั้งใหม่ของแพทย์และทันตแพทย์ เนื่องจากจำนวนของแพทย์และทันตแพทย์ ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรเฉลี่ยหนึ่งหมื่นคน โดยให้บรรจุแพทย์ 2,000 อัตรา แบ่งเป็นอัตราตั้งใหม่ 779 อัตรา บวกกับตำแหน่งที่ว่าง 1,221 อัตรา ขณะที่ทันตแพทย์จบใหม่บรรจุ 600 อัตรา แบ่งเป็นอัตราตั้งใหม่ 70 อัตรา บวกกับตำแหน่งที่ว่าง 530 อัตรา สำหรับเภสัชกร ครม.ได้รับหลักการแต่นายกรัฐมนตรีให้กระทรวงสาธารณสุขกลับไปพิจารณาตัวเลขอัตรากำลังให้ชัดเจนเนื่องจากอัตรากำลังที่สำรวจพบว่าจำนวนเภสัชกร 1 คน ต่อประชากร 6,200 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใกล้เคียงกับตัวเลขที่กระทรวงตั้งไว้แล้วเมื่อเกิดความชัดเจนให้เสนอ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบต่อไป
+++ทนพ.นิทัศน์ น้อยจันอัด ประธานชมรมเทคนิคการแพทย์ชุมชนในฐานะผู้ประสานงานชมรม 7 วิชาชีพทางการแพทย์ สาขาเทคนิคการแพทย์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพยาบาลที่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการแล้ว แต่วิชาชีพอื่น ๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นเครือข่ายฯ ประมาณ 300 คน จะเดินทางมายื่นหนังสือถึง นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในวันที่ 26 พ.ค. นี้ เพื่อขอความชัดเจน ทั้ง 7 วิชาชีพล้วนสำคัญกับระบบสาธารณสุขไม่น้อยกว่าแพทย์ ประกอบด้วย นักเทคนิคการแพทย์ นักภายภาพบำบัด นักรังสีการแพทย์ นักกิจกรรมบำบัด นักจิตวิทยาคลินิก นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก และ นักเวชศาสตร์สื่อความหมายและแก้ไขการพูด
+++ ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งเป็นคำสั่งครั้งที่ 2 เรื่องมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการจัดตั้งอีอีซีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนและมีโครงการสำคัญที่ต้องดำเนินการ และกระบวนการพิจารณาการร่วมทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน (พีพีพี) ซึ่งปัจจุบันใช้เวลานานมาก ให้ใช้เฉพาะกับโครงการเร่งด่วนสำคัญ ขอให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาโครงการรัฐ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น ที่เกี่ยวข้องกับระบบการขนส่ง การบริการสาธารณะ และกิจการที่เป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลควรเร่งรัด ให้เกิดผลในการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ซึ่งในบางครั้งอาจจะติดขัดข้อกฎหมายหรือมีปัญหาการบูรณาการระหว่างกระทรวง จึงขอให้แก้ปัญหาเรื่องนี้โดยจัดทำข้อเสนอมาที่นายกรัฐมนตรี เพื่อที่นายกรัฐมนตรีจะนำมาพิจารณาออกมาตรา 44 เพื่อปลดล็อกปัญหาให้ได้
+++ความคืบหน้าในการร่างกฎหมายลูก นายเสรี สุวรรณภานนท์ รองประธานกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง สนช. กล่าวว่า ที่ประชุมกมธ.ได้โหวตลงมติด้วยเสียงข้างมากให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้งมาทำหน้าที่แทน กกต.จังหวัด ตามแนวทางที่กรธ.เสนอมา โดย กมธ.ส่วนใหญ่เห็นว่า การมีผู้ตรวจการเลือกตั้งจะช่วยให้การเลือกตั้งมีประสิทธิภาพและมีความสุจริต เที่ยงธรรมมากกว่า กกต.จังหวัด และไม่ถูกแทรกแซงจากอิทธิพลทางการเมือง โดยจะให้ทั้งคนนอกและในพื้นที่มาร่วมเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง ส่วนประเด็นคุณสมบัติของ กกต.ว่าจะมีการออกบทเฉพาะกาลให้กกต.ชุดปัจจุบันที่มีปัญหาคุณสมบัติขัดกับรัฐธรรมนูญปัจจุบันสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้หรือไม่ กมธ.ยังไม่ได้ข้อสรุปต้องรอพิจารณาอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้.
+++นักลงทุน ยังคงรอฟังผลการประชุมเรื่องอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วงบ่ายวันนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้มีการคาดการณ์ว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 1 วัน ไว้ที่ระดับร้อยละ 1.5 ซึ่งอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับดังกล่าวมากว่า 2 ปีแล้ว
+++นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเติบโตของตัวเลขการส่งออกในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ เติบโตอย่างมากจากเหตุผลด้านราคาสินค้าเกษตรและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้น สำหรับไตรมาสที่ 2 และช่วงที่เหลือของปี ต้องจับตามองว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะเป็นเช่นไร ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะย่อตัวลง แต่จะถูกชดเชยด้วยจำนวนการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าการส่งออกทั้งปีจะยังเติบโตเป็นบวกเป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้จีดีพี ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ปี 2560 โตได้ที่ร้อยละ 3.1
แฟ้มภาพ