สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นบนเกาะมินดาเนา ของฟิลิปปินส์ ทำให้นายเออร์เนสโต อเบลลา โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แถลงว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วทั้งเกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของประเทศ เริ่มตั้งแต่เวลา 22.00 น.ของวันอังคารที่ 23 พ.ค.เป็นต้นไป มีกำหนด 60 วัน หลังจากเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของฟิลิปปินส์กับสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงหลายสิบคนพร้อมอาวุธ ในเมืองมาลาวี เมืองซึ่งมีประชากร 200,000 คน บนเกาะมินดาเนา เมื่อวันอังคาร เมืองมาราวีในเขตจังหวัดลาเนา เดล ซูร์ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ลงไปทางใต้ราว 800 กม.
ด้านนายเดลฟิน ลอเรนซานา รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ทหารได้ยกกำลังบุกแหล่งกบดานของหัวหน้ากลุ่มหัวรุนแรงคนสำคัญคือนายอิสนิลอน ฮาปิลอน ที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้ากลุ่มสาขาของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ก่อการร้ายทั่วโลกที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯต้องการตัว โดยมีเงินรางวัลนำจับ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
รัฐมนตรียุติธรรมฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ผลจากการบุกแหล่งกบดานของหัวหน้ากลุ่มสาขาของไอเอส ทำให้เกิดการยิงปะทะกัน กลุ่มหัวรุนแรงได้เรียกกำลังเสริมจากกลุ่มพันธมิตรคือเดอะ มัวเต ส่งกำลังเข้ามาบุกยึดศาลากลางเมือง โรงพยาบาล และยังเผาโบสถ์ เรือนจำ วิทยาลัยและบ้านเรือนบางหลังด้วย
มีรายงานว่า กองกำลังด้านความมั่นคงเสียชีวิต 3 นายและบาดเจ็บ 12 คน รัฐบาลเรียกร้องพลเมืองในมินดาเนาให้อยู่แต่ในที่พักอาศัยหรือหลบหนีไปยังพื้นที่ปลอดภัย ส่วนกองทัพ เปิดเผยว่า กำลังเสริมทหารเข้าไปเพิ่มเติมในเบื้องต้น 500 นาย เพื่อค้นหากลุ่มหัวรุนแรง ทหารและนายกเทศมนตรีของเมือง เปิดเผยว่า สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ที่อยู่ระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซีย ลดภารกิจการเยือนรัสเซียและรีบเดินทางกลับฟิลิปปินส์ทันที ช่วงที่พบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ต้องการอาวุธที่ทันสมัยมากขึ้นในการสู้กับกลุ่มก่อการร้าย
CR:BBC