นายกฯย้ำเข้มงวดความปลอดภัยทุกสถานที่ วอนอย่ากล่าวหารัฐบาล เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะลงโทษคนทำ
3428
https://www.js100.com/en/site/news/view/40917
COPY
23 พฤษภาคม 2560, 15:15น.
การประชุมคณะรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมว่า ไม่สามารถตอบแทนผู้ก่อเหตุได้ว่ามีวัตถุประสงค์ใด แต่ส่วนตัวคิดเป็นการยึดโยงกับวันครบรอบ 3 ปี คสช. ทั้งนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยจะใช้ทุกวิถีทางในการสืบสวนสอบสวน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจ หรือลองของรัฐบาลคสช. เพราะคสช. และรัฐบาลต้องอยู่บริหารประเทศตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่าได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่ามีมาตรฐานในการติดตั้งที่เหมาะสมหรือไม่ ยอมรับว่ากล้องวงจรปิดบางแห่งอาจมีปัญหาเนื่องจากติดตั้งมาเป็นระยะเวลานานรัฐบาลจึงต้องรีบดำเนินการปรับปรุงแก้ไข
ส่วนพื้นที่เกิดเหตุได้สั่งการให้มีการตรวจสอบโดยเร็ว แต่ส่วนตัวยอมรับว่ามีความกังวลเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ให้บริการสาธารณะ ดังนั้นการเข้มงวดเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยจึงถือว่าน้อยกว่าพื้นที่อื่นขณะเดียวกันก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเพราะไม่มีใครในโลกทำและถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และไม่สามารถให้อภัยได้ ไม่คำนึงถึงผู้บริสุทธิ?
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้สั่งเข้มงวดเพิ่มความปลอดภัยในทุกระดับ โดยเฉพาะเขตพระราชฐานสถานที่ราชการ และจุดเสี่ยงต่างๆ ซึ่งยอมรับว่าประชาชนอาจจะมีผลกระทบอยู่บ้าง เพราะต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเหตุการณ์ระเบิดเช่นนี้หมายถึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2553 ซึ่งต้องดูว่ามีความเชื่อมโยงหรือไม่ ขณะเดียวกันต้องนำประเด็นว่าทำไมเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในวันครบรอบ3ปีคสช. และทำไมต้องเกิดในโรงพยาบาลทหารมาวิเคราะห์ด้วย ซึ่งหาก กระทำดังกล่าวเป็นการหวังผลทางการเมือง ส่วนตัวเชื่อว่าจะต้องได้รับการลงโทษจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับประชาชนซึ่งถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่จะยอมให้คนเหล่านั้นเข้ามาทำร้ายประเทศหรือ
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณห้องวงษ์สุวรรณ ขออย่าใช้คำว่าท้าทายหรือโจมตีเพราะไม่ใช่เหตุการณ์ที่อยู่ในสนามรบเพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของคนเลวที่ต้องการให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสีย ซึ่งส่วนตัวไม่สนใจเพราะท้าทายอย่างไรตนก็จะไม่สู้เพราะ ตนจะต้องใช้กฎหมายดำเนินการแล้วให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ขออย่าบิดเบือนว่ารัฐบาลเป็นผู้กระทำเองเพราะไม่มีรัฐบาลที่ไหน จะสามารถทำแบบนั้นได้ เว้นแต่คนที่อยากเปลี่ยนรัฐบาลแล้วคิดกระทำเรื่องที่เลวร้ายแบบนี้ ยืนยันรัฐบาลไม่เคยคิดทำเช่นนี้
ส่วนการประเมินสถานการณ์ในการรับมือและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยรัฐบาลได้ประเมินอย่างต่อเนื่อง ที่ของฝ่ายความมั่นคงและไม่อยากให้โทษใคร ซึ่งในส่วนการข่าว ยอมรับว่ามีคนที่พร้อมเคลื่อนไหว ทั้งก่อการร้ายเรื่องส่วนตัวและเรื่องทางการเมือง
ขณะเดียวไม่ต้องการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้พร้อมขออย่าขยายความเพราะจะมีผลกระทบต่อการลงทุนและเศรษฐกิจพร้อมกันนี้ยังยืนยันด้วยว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะทำงานให้ดีที่สุดและเต็มขีดความสามารถที่ตนเองรวมถึงรัฐบาลและคสช.สามารถทำได้
อย่างไรก็ตามขอขอบคุณประชาชนที่ให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นไปด้วยดีแต่ยังคงมีปัญหาต่างๆที่อาจจะดำเนินการแก้ไขต่อไป
ส่วนการแถลงผลงานครบรอบ3ปีได้เน้นย้ำให้ทุกกระทรวง ชี้แจงผลการดำเนินการว่าได้ทำสิ่งใดไปแล้วบ้างแล้วเกิดประโยชน์อย่างไร
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่าการเลือกตั้ง ไม่สามารถระบุวันที่ชัดเจนได้แต่ทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแมพ ที่กำหนดไว้ แต่สิ่งที่สำคัญที่อยากให้คำนึงถึง หากบ้านเมืองจะมีเหตุการณ์ไม่สงบมีความขัดแย้ง จะเลือกตั้งได้หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้กำหนด ในการเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้หมดแล้ว ซึ่งจะต้องเป็นไปตามนั้นเว้นแต่บ้านเมืองไม่สงบสุข ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่านายกรัฐมนตรีจะลงเลือกตั้งหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า ยังไม่รู้เลย
ส่วนมาตรการเฝ้าระวังสถานการณ์ในช่วงเดือนรอมฎอน รัฐบาลมีมาตรการดูแลเรื่องนี้มาโดยตลอด และเหตุการณ์ความรุนแรงก็ลดลงทุกปี
ส่วนกรณีที่ขบวนการ BRN ส่งใบปลิวเรียกกองกำลังเยาวชนในพื้นที่จ.ปัตตานี ต้องสร้างความเข้าใจ ว่าการใช้ความรุนแรงความขัดแย้งเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไม่สามารถทำได้ ซึ่งต้องช่วยชี้แจงให้เยาวชนอย่าไปหลงเชื่อเรื่องบิดเบือนในเรื่องเหล่านั้น
ข่าวทั้งหมด