รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทำให้เกิดการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือหลายโครงการคิดเป็นมูลค่ารวมมากกว่า 350,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 12,250,000 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงข้อตกลงในการซื้อขายอาวุธที่มีมูลค่า 110,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3,850,000 ล้านบาทด้วย โดยนับเป็นข้อตกลงครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่าข้อตกลงการซื้อขายอาวุธเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการเสริมศักยภาพด้านความมั่นคงแก่ซาอุดีอาระเบียเพื่อให้เกิดการลดอิทธิพลของอิหร่าน และส่งเสริมเสถียรภาพระยะยาวในภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะที่โฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่าในบรรดาอาวุธที่สหรัฐฯ ขายให้แก่ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงเฮลิคอปเตอร์รบรุ่นแบล็กฮอว์ก จำนวน 150 ลำ มูลค่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 210,000 ล้านบาท ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ อีกคนหนึ่งเผยว่าการจำหน่ายอาวุธแก่ซาอุดีอาระเบียจะช่วยทำให้การปราบปรามการก่อการร้ายในภูมิภาคตะวันออกกลางมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนเป็นการแบ่งเบาภาระของกองทัพสหรัฐฯ ในการปฏิบัติการปราบปรามการก่อการร้าย ขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียทรงส่งข้อความในทวิตเตอร์ หลังจากการหารือกับผู้นำสหรัฐฯ โดยทรงยกย่องประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมแสดงความหวังว่าการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้จะนำไปสู่การเพิ่มความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ และในวันนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอาหรับ อิสลาม และอเมริกาในกรุงริยาดท่ามกลางความคาดหมายว่าเขาน่าจะกล่าวถึงความหวังในการสร้างสันติภาพของกลุ่มประเทศอิสลาม ในกำหนดการเดินทางเยือนต่างประเทศเป็นเวลา 8 วัน นอกจากซาอุดีอาระเบียแล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ยังมีกำหนดการเดินทางเยือนอิสราเอล ปาเลสไตน์ กรุงบรัสเซลล์ของเบลเยียม นครวาติกัน และแคว้นซิซิลีของอิตาลีด้วย
**7.54F174**