การปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายนายจิรวัฒน์ บุญคุ้ม และเครือข่ายนายฤทธิชัย ทองผึ้ง พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบสวนและติดตามเครือข่ายของนายจิรวัฒน์ บุญคุ้ม ที่มักจัดหายาบ้าครั้งละไม่ต่ำกว่า 1 ,000,000เม็ด มาจากเครือข่ายในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย และนำมาซุกซ่อนไว้ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ก่อนจะจำหน่ายให้ลูกค้าที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑลและภาคใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติการณ์ อย่างใกล้ชิด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้3จุด เริ่มจากจับกุมนายจิรวัฒน์ และพวกอีก3ราย พร้อมยาบ้า340,000เม็ด ขณะกำลังนำเข้าเก็บพักในพื้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งจากการสอบปากคำแล้ว เจ้าหน้าที่จึงขยายผลไปที่ห้องพักย่านอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี สามารถจับกุมนายยอดรัก พลายเดือน พบยาบ้า34,000เม็ด และไอซ์อีก800กรัม
จากนั้นขยายผลต่อไปที่เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จับกุมนายธรรมปพน ธนบริบูรณ์ และพวกอีก4ราย พร้อมยาบ้า764,000เม็ด โดยนายธรรมปพน รับสารภาพว่าจะนำยาบ้าไปส่งให้กับผู้ต้องหาอีก3คน ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ และจากการจับกุมครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด13ราย ยาบ้ารวม1,138,000เม็ด ไอซ์800กรัม พร้อมกับตรวจยึดทรัพย์สินได้อีก24 รายการ มูลค่าประมาณ7,000,000 บาท นอกจากนี้ยังจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายของนายฤทธิชัย ทองผึ้ง ได้อีก3ราย พร้อมของกลางยาบ้ารวม4,080,000เม็ด หลังสืบทราบว่า มีนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดสตูล ร่วมกัน จัดหายาเสพติดมาเก็บพักในพื้นที่สวนยางพารา และทราบมาว่าในวันที่ 18 พฤษภาคม จะนำยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาเก็บซุกซ่อนในพื้นที่ดังกล่าว จึงติดตามและสามารถจับกุมนายฤทธิชัย ได้ที่สวนยางพารา อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง จากนั้นขยายผลต่อจับกุมนายไพรสณฑ์ เขี้ยวแก้วและนางสมศรี แสงทิพย์ ได้ในพื้นที่ใกล้เคียง
ด้าน นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) กล่าวว่า การร่วมกันบูรณาการทลายเครือข่ายยาเสพติดในครั้งนี้ เนื่องจากการข่าวพบว่ามีการขนย้ายยาเสพติดมาพักไว้ในพื้นที่ต่างๆทั้งภาคกลางและภาคใต้ จึงเกิดการบูรณาการร่วมหลายหน่วยงานเพื่อทลายเครือข่าย นอกจากนี้ จากการตรวจสอบตัวยาบ้าที่สามารถยึดได้จากทั้งสองเครือข่าย จากแล็ป พบว่าเป็นยาบ้าของกลุ่มหว้า ที่มีคุณภาพดี โดยมีการตีตราสัญญาลักษณ์ที่แตกต่างกัน และจากการข่าวพบว่า ยาบ้าสัญญาลักษณ์วายวัน ที่ตีตราจากโรงงานจะเป็นที่นิยมในประเทศมาเลเชีย ที่ขณะนี้มีสถานการณ์ยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในส่วนของเครือข่ายที่ 2 ที่เป็นสัญญาลักษณ์วายวัน พบว่ามีการแพ็คยาเสพติดเตรียมส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ไม่ได้ขายปลีกภายในประเทศไทย
ในการดำเนินการป้องกันเครือข่ายขนย้ายลำเลียงทาง ป.ป.ส. นอกจากการใช้การข่าวผ่านเครือข่ายแม่น้ำโขงปลอดภัยเข้าตัดตอนขบวนการ ยังได้มีการขยายผลติดตามยึดทรัพย์ผู้ที่ร่วมขบวนการ รวมถึงดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการตัดตอนขบวนการ ซึ่งในส่วนนี้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันพบว่า ชุมชนในประเทศทั้งหมดกว่า 8 หมื่นชุมชน มีประมาณ 3 หมื่นชุมชน ที่ยาเสพติดเข้าถึงและมีปัญหาในขณะนี้ และจากการข่าวทำให้เชื่อว่าขณะนี้ขบวนการยาเสพติดใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพื่อนำส่งออกไปยังประเทศที่ 3 โดยจะใช้จังหวัดทางภาคใต้ที่ไม่เคยมีปัญหายาเสพติดระบาดอย่างเช่นจังหวัดตรัง เป็นที่ในการพักยา เนื่องจากจะไม่เป็นที่สนใจของทางเจ้าหน้าที่ ก่อนลำเลียงข้ามไปยังประเทศที่ 3 ทางทะเล โดยเฉพาะ