กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พร้อมด้วยตัวแทนรัฐบาลอิตาลี แถลงรายละเอียดหลังจากที่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้เข้าตรวจค้นแหล่งนำเข้ารถยนต์หรูปลอมอินวอยซ์และหลบเลี่ยงภาษี 9 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) รวมทั้ง จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การตรวจค้นกลุ่มผู้นำเข้ารถหรู เพื่อป้องกันไม่ให้รถยนต์ถูกขายให้กับบุคคลที่สาม และป้องกันไม่ให้บริษัทไฟแนนซ์เข้ามาอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งผู้นำเข้ากลุ่มนี้ทำหน้าที่ทั้งนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ โดยใช้ช่องว่างจากข้อยกเว้นของกรมศุลกากรที่ให้เจ้าหน้าที่รับฟังราคาจากใบอินวอยซ์ พร้อมกำชับให้ดีเอสไอ ทำตามพยานหลักฐาน และหากพิสูจน์ทราบได้ว่า มีการร่วมมือกันระหว่างคนที่นำรถเข้ามากับเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะต้องดำเนินคดีตามขั้นตอน
เจ้าหน้าที่อายัดรถยนต์ได้จำนวน 122 คัน จาก 5 จุดตรวจค้น คือ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ย่านพระราม 9 และอาคารไม่มีเลขที่อยู่ทางทิศตะวันออกของอาคารเลขที่ 2388 อายัดรถยนต์ได้81 คัน /โชว์รูมรถยนต์ บริษัท นิชคาร์ กรุ๊ป จำกัด สาขาสยามพารากอน อายัดรถยนต์ได้ 1 คัน / เต้นท์รถยนต์ เลขที่ 999/9 ย่านคลองจั่น (สถานที่เก็บรถยนต์แลมโบกินี่) อายัดรถยนต์ได้ 6 คัน /โชว์รูมรถยนต์เอสทีที ออโต้ คาร์ ย่านห้วยขวาง (สถานที่เก็บรถยนต์ลัมโบกินี่) อายัดรถยนต์ได้ 24 คัน /และโชว์รูมรถยนต์ เอสทีที ออโต้ คาร์ ย่านสุขุมวิท (สถานที่เก็บรถยนต์ลัมโบกินี่) อายัดรถยนต์ได้ 10 คัน ซึ่งรถยนต์ที่อายัดทั้งหมด ภาษีขาดโดยเฉลี่ยต่อคันประมาณ 10 – 18 ล้านบาทต่อคัน รวมแล้วรัฐเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 2,400 ล้านบาท
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ชี้แจงว่า ดีเอสไอ ขอความร่วมมือและขอข้อมูลจากอิตาลี และอังกฤษ พบว่ามีการหลบเลี่ยงภาษีคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้าน พร้อมชี้แจงเรื่องขั้นตอนการนำรถจากต่างประเทศเข้ามาที่ไทย เช่น รถจากอิตาลี ราคาตั้งต้น2แสนกว่ายูโร มีขบวนการจัดทำเอกสารเปลี่ยนจากราคาตั้งต้นจากเงินยูโรมาเป็นเงินยูเอสดอลลาร์ ทำให้ราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ยืนยันว่า จะดำเนินการตรวจสอบทุกบริษัทที่นำรถเข้ามา จึงต้องอายัดไว้เพื่อตรวจสอบ ส่วนจะมีกี่กลุ่มขอเป็นข้อมูลเชิงลับในการตรวจสอบ และอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ประเด็นที่ระบุว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เบื้องต้น ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว และยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ นอกจากนี้ จะต้องตรวจสอบรถย้อนหลังอีกกว่าหมื่นคันในห้วงปีที่ยังสามารถดำเนินคดีได้ด้วย ว่ามีการสำแดงเท็จตอนนำเข้ามาหรือไม่ ทั้งนี้ แต่ละประเทศข้อมูลจะแตกต่างกัน การนำรถเข้ามาผู้นำรถยื่นเอกสารชำระภาษีไปที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่จะพิจารณาประเมินภาษี จึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ การดำเนินการเราจะดำเนินการกับกระบวนการที่นำรถเข้ามา