FBIร่วมตร.นิวยอร์กสอบเก๋งชนคนย่านไทม์สแควร์/เปิดครม.ฝรั่งเศส/หุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้น

19 พฤษภาคม 2560, 06:04น.


+++ความคืบหน้าเหตุระทึกขวัญย่านใจกลางนิวยอร์ก ซิตี ของสหรัฐฯ เมื่อเกิดเหตุรถยนต์คันหนึ่งแล่นด้วยความเร็วสูงพุ่งชนคนเดินถนนที่อยู่บนทางเท้าในย่านไทม์สแควร์ ในเขตแมนฮัตตัน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เมื่อช่วงเที่ยงวันพฤหัสบดีที่ 18 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณเวลา 23.00 น. เมื่อคืนนี้ ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คนเป็นหญิงวัยรุ่น อายุ 18 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 22 คน



+++ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน เล่าให้ฟังว่า คนขับรถคันดังกล่าว เป็นผู้ชายสวมเสื้อยืดสีเข้มขับรถสวนเลนและพุ่งขึ้นไปบนบาทวิถี ชนเข้ากับคนเดินเท้า ก่อนไปหยุดนิ่งบนถนนสาย 45 ตัดกับบอร์ดเวย์ จากนั้นตำรวจ ก็เข้ามาควบคุมตัวชายคนดังกล่าว นำตัวขึ้นรถของตำรวจไปตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด



+++มีรายงานว่า ชายคนดังกล่าวชื่อ ริชาร์ด โรจาร์ อายุ 26 ปี จากย่านบรองซ์ ตำรวจเชื่อว่าเหตุร้ายครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย แต่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมให้แน่ชัด พยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เขาอยู่ในสภาพมึนเมา จากการตรวจสอบพบว่า นายโรจาร์ เคยมีประวัติขับรถขณะมึนเมาสุราด้วย จึงเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การก่อการร้าย



+++เจมส์ โอนิล เจ้าหน้าที่ตำรวจจากรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชายคนที่ก่อเหตุไปสอบปากคำและตรวจสอบหาสารเสพติดและวัดแอลกอฮอล์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับแจ้งและติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ร่วมมือกับตำรวจนิวยอร์กเร่งสอบสวนคดีนี้ ส่วนนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เปิดเผยว่า ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเป็นการก่อการร้ายและคนขับเคยถูกจับฐานเมาแล้วขับมาแล้ว 2 ครั้ง เหตุการณ์ล่าสุด สร้างความตื่นตระหนก หลังเกิดเหตุคนร้ายขับรถพุ่งชนคนทั้งในลอนดอน เบอร์ลินและเมืองนีซ ของฝรั่งเศส ย่านไทม์สแควร์ ซึ่งเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวและผู้คนพลุกพล่านที่สุดเเห่งหนึ่งในนิวยอร์ก



+++นายเควิน แม็คคาร์ธี ส.ส.พรรครีพับลิกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย และผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าวหานายทรัมป์ ระหว่างการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ กับเพื่อนสมาชิกรัฐสภารายอื่นๆ และการพูดคุยถูกบันทึกไว้ เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ในช่วงนั้นเป็นฤดูกาลหยั่งเสียงเบื้องต้นแบบไพรมารี ซึ่งนายทรัมป์ลงแข่งขันชิงเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในลักษณะที่เป็นการกล่าวหาว่า นายทรัมป์ รับเงินจากชาวรัสเซีย



+++นายแม็คคาร์ธี โต้กลับรายงานผ่านทางทวิตเตอร์ ว่า เป็นความพยายามบิดเบือนคำพูดขำขันแต่ไม่ขำของผม   สำนักข่าวรอยเตอร์ ไม่มีสำเนาเทปบันทึกเสียง และไม่สามารถยืนยันความถูกต้องแท้จริง ว่าสิ่งที่นายแม็คคาร์ธีพูดเป็นเรื่องตลกหรือไม่



+++เอเอฟพี รายงานอ้างแถลงการณ์จากรัฐบาลรัสเซียว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ได้พูดคุยเรื่องการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่างประเทศทั้งสองให้ดียิ่งขึ้น ในการโทรศัพท์คุยกันเป็นครั้งแรก ผู้นำทั้งสองแสดงความพร้อมที่จะเสริมสร้างมิตรภาพที่สืบเนื่องมายาวนานระหว่างกันทั้งในด้านการเมือง การค้า เศรษฐกิจ วัฒนธรรม มนุษยธรรมและด้านอื่นๆ แถลงการณ์ระบุว่าผู้นำทั้งสองตกลงจะร่วมกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาปัจจุบันทั้งในระดับระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย



+++การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ของฝรั่งเศส นายมาครง รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ในระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ในการจัดตั้งรัฐบาลที่ประกอบด้วยนักการเมืองฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวา และครม.ใหม่ครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง หลังจากตั้งนายเอดูอาร์ด ฟิลิปเป เป็นนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดีมาครง เปิดเผยคณะรัฐมนตรี(ครม.)ใหม่ 22 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 11 คน ตามที่นายมาครงให้สัญญาไว้ และที่สำคัญมีถึง 18 คนที่เป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ โดยนายเจอราร์ด โคลลอมบ์ จะเป็นรมว.มหาดไทย,  นายฟรองซัวส์ เบย์รู อดีตผู้สมัครชิงประธานาธิบดีจะเป็นรมว.ยุติธรรม และนายฌอง-อีฟ เลอ ดริยง อดีตรมว.กลาโหมในรัฐบาลชุดที่แล้ว จะนั่งเก้าอี้รมว.ต่างประเทศและยุโรป ส่วนนายบรูโน เลอ แมร์ รมว.เศรษฐกิจ ครม.ชุดใหม่จะประชุมครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี (18พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น



+++ไปที่เกาหลีใต้ ศาลแขวงกลางกรุงโซล พิพากษาหมอศัลยกรรม 2 คนฐานมีส่วนพัวพันในคดีทุจริตคอร์รัปชัน ที่ทำให้นางปัก กึนฮเย ต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อเดือนมีนาคม นายคิม ซังมินและนายคิม ยองแจ หมอศัลยกรรมตกแต่ง 2 คนให้การยอมรับต่อศาลว่า เคยแอบเข้าไปให้การรักษาด้านความงามแก่อดีตประธานาธิบดีปัก ถึงบ้านพักเป็นระยะเวลาหลายปี  โดยที่ทีมแพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีไม่เคยรับรู้มาก่อน ศาลจึงพิพากษาให้นายคิม ซังมิน จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 10 ล้านวอน (กว่า 300,000 บาท) ฐานกระทำความผิดปลอมแปลงข้อมูลประวัติทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษานางปัก ส่วนนายคิม ยองแจ กระทำความผิดฐานให้การเท็จต่อหน้ารัฐสภาก่อนหน้านี้ระบุว่า ไม่เคยทำการรักษาให้นางปัก แต่เพิ่งมากลับคำให้การทีหลังว่า เคยทำการรักษาให้นางปักด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ศาลจึงตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 18 เดือน โดยให้รอลงอาญา นอกจากนี้ ศาลยังพิพากษาจำคุกภรรยาของนายคิม ยองแจ เป็นเวลา 1 ปีฐานติดสินบนที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนางปัก เพื่อแลกเปลี่ยนกับนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจส่วนตัว



+++วันนี้ อิหร่าน จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี สภาผู้พิทักษ์ คัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมขึ้นมา 6 คนจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ลงชื่อเพื่อลงเลือกตั้งทั้งหมดถึง 1,636 คน ผู้สมัครทั้ง 6 คน รวมถึงประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี แต่ไม่มีชื่อของอดีตประธานาธิบดีมาห์มูด อะห์มาดีเนจาด และไม่มีผู้สมัครที่เป็นผู้หญิง เมื่อวันพฤหัสบดี คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศห้ามผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีดีเบตถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์



+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ ปิดที่ 49.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ ปิดที่ 52.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักวิเคราะห์และนักลงทุนจำนวนมาก ให้ความสนใจไปที่การประชุมระหว่างโอเปกและผู้ผลิตหลักอื่นๆ ในนั้นรวมถึงรัสเซีย ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย สัปดาห์หน้า ซึ่งจะหารือกันว่าจะขยายกรอบเวลาของข้อตกลงลดกำลังผลิตออกไปหรือไม่ หลังจากข้อตกลงที่เห็นพ้องกันเมื่อปีที่แล้ว จะหมดอายุลงในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้



+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ฟื้นตัวจากการดิ่งหนักที่สุดในรอบ 8 เดือนเมื่อวันพุธ ได้แรงหนุนจากความเคลื่อนไหวผ่อนคลายกฎระเบียบอินเตอร์เน็ตและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 56.09 จุด ปิดที่ 20,663.02 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 8.69 จุด ปิดที่ 2,365.72 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 43.89 จุดปิดที่ 6,055.13 จุด



+++ส่วนราคาทองคำ ปิดลบพอสมควร จากความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำลดลง หลังตลาดหุ้นและดอลลาร์ทรงตัว ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,252.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์



CR:CNN

       



 



 

ข่าวทั้งหมด

X