ปภ.ประสาน7จังหวัดลุ่มน้ำระวังน้ำป่า/ปปง.อายัดทรัพย์ลูกชายเสี่ยเปี๋ยง/สหภาพแรงงานกรีซประท้วงทั่วประเทศ

+++นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ประกอบกับฝนตกสะสมในช่วงก่อนหน้านี้ ส่งผลให้พื้นดินชุ่มน้ำ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะลุ่มน้ำปิง ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำกก ลุ่มน้ำน่าน และลุ่มน้ำวัง ปภ.จึงได้ประสาน 7 จังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าว ได้แก่ เชียงใหม่ (อ.ดอยสะเก็ด เชียงดาว ดอยหล่อ แม่แจ่ม แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันทราย และหางดง) ลำพูน (อ.บ้านธิ บ้านโฮ่ง และแม่ทา) พะเยา (อ.เมืองพะเยา และจุน) เชียงราย (อ.เมืองเชียงราย เทิง และเวียงป่าเป้า) แพร่ (อ.ลอง สอง เด่นชัย วังชิ้น และสูงเม่น) ลำปาง (อ.เถิน วังเหนือ แจ้ห่ม และงาว) และน่าน (อ.เมืองน่าน ปัว เฉลิมพระเกียรติ เวียงสา เชียงกลาง และบ่อเกลือ) เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงวันที่ 17 – 18 พ.ค.

+++นายฉัตรชัย กล่าวว่า กรณีมีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีปริมาณฝนมากกว่า 100มิลลิเมตรต่อวัน เริ่มมีดินไหลและน้ำป่าไหลหลาก ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอย่างเต็มกำลัง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด

+++กรณีสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เรียกร้อง ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44ผลักดันกฎหมายปฏิรูป 36ฉบับที่ สปท. เสนอ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะการใช้มาตรา 44  คสช. ต้องพิจารณาความจำเป็น จะใช้กับการออกกฎหมายหลักไม่ได้ แต่สามารถใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือเรื่องที่กฎหมายหลักแก้ไม่ได้เท่านั้น แม้ สปท. จะพ้นวาระแต่ สนช. ยังมีวาระอีกกว่า 1ปี ที่จะสามารถช่วยผลักดันได้หากรัฐบาลเสนอมาตามกระบวนการ หากเรื่องที่ สปท.เสนอแล้วสอดคล้องกับที่หน่วยงานรัฐกำลังดำเนินการก็จะสามารถตรากฎหมายได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจไม่สามารถดำเนินการได้ครบทั้ง 36ฉบับและบางฉบับอาจมีปัญหาเพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดให้ออกกฎหมายเท่าที่จำเป็น

+++พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งที่ ย.52/2560 เรื่องอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) รายบุคคลที่เกี่ยวกับการกระทำผิดโครงการจำนำข้าวและการระบายข้าว แบบรัฐต่อรัฐ ของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง อดีตนักธุรกิจค้าข้าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ซึ่ง ปปง.ได้อายัดทรัพย์ ไปแล้วทั้งสิ้น จำนวน 1,806 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 12,929.3 ล้านบาท

+++นอกจากนี้ มีที่ดินใน ต.โรงช้าง อ.ป่าโมก ที่บริษัทสยามเอดิก้า จำกัด เป็นผู้ครอบครอง และที่ดินในกทม. พบชื่อผู้ครอบครอง คือ นายสรวิช จันทร์สกุลพร บุตรชาย นายอภิชาติ รวมทั้งอาคารชุดเมโทรจอมเทียน คอนโดเทล ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 16 ล้านบาท และเงินฝากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์, บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และลงทุนในกองทุนต่างๆ รวมทั้งสิ้น 30 ล้านบาท ขณะที่ ยังมีกิจการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ กทม.วงเงินจดทะเบียน 320,000,000 บาทด้วย

+++ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกอายัดหรือผู้ที่มีส่วนได้เสียกับทรัพย์ที่ถูกอายัด หากต้องการให้เพิกถอนอายัดทรัพย์ให้ยื่นคำขอ และนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงว่า เงินหรือทรัพย์สินที่อายัดไม่ใช่ทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดภายใน 30 วัน นับจากวันประกาศคำสั่งนี้

+++นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน  ธปท. กล่าวว่า จีดีพีไตรมาส 1/2560 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.3 ดีกว่าที่ ธปท.คาดไว้ แต่ยังต้องจับตาการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวร้อยละ 1.1 ซึ่ง ธปท.ยังคงคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนปีนี้จะกลับมาเป็นบวก เนื่องจากการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะมีผลทำให้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวดีขึ้นตาม ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทค่อนข้างนิ่ง มีปัจจัยที่ ธปท.ต้องติดตาม คือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด) วันที่ 14 มิถุนายนนี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและคาดว่าปีนี้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง ซึ่งหากเป็นไปตามที่ตลาดคาดหมายผลกระทบไม่มาก เนื่องจากรับรู้ข่าวมาตลอด

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปรับตัวขึ้น 1.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,548.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,634.68 ล้านบาท

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและมาตรการคุมเข้มด้านกฎระเบียบ ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 42.31 จุด ปิดที่ 25,293.63 จุด

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดร่วง 104.94 จุด ปิดที่ 19,814.88 จุด

+++บีบีซีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่กรีซว่าประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในใช้บริการของโรงพยาบาล การคมนาคมและการติดต่อสถานที่ราชการทั่วประเทศหลังสหภาพแรงงานนัดประท้วงใหญ่ทั่วประเทศในวันนี้เพื่อคัดค้านมาตรการประหยัดค่าใช้จ่ายรอบใหม่ของรัฐบาลกรีซ การนัดหยุดงานประท้วงของหน่วยราชการบางแห่งในส่วนกลางเริ่มต้นตั้งแต่วานนี้ แต่เริ่มขยายไปสู่ส่วนราชการระดับภูมิภาคทั่วประเทศในวันนี้ เมื่อสหภาพแรงงานรายใหญ่ๆหลายองค์กรนัดสมาชิกเข้าร่วมการประท้วง ส่งผลให้เรือข้ามฟากและรถเมล์หยุดให้บริการทั่วประเทศ ก่อนที่สภาผู้แทนราษฏรของกรีซจะลงมติว่าจะรับรองร่างกฏหมายปฏิรูปฉบับใหม่ในวันพรุ่งนี้หรือไม่ ซึ่งหากผ่านสภาจะมีผลคือปรับลดสิทธิ์ประโยชน์ของระบบบำเหน็จบำนาญและยุติการพักชำระภาษีชั่วคราวของรัฐบาล

+++รัฐบาลกรีซ ภายใต้การนำของพรรคไซริซา พรรคแนวคิดขวาจัดของกรีซต้องการจะประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากขึ้นเพื่อโน้นน้าวให้ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังจากเขตยูโรโซนที่จะประชุมกันในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมในสัปดาห์หน้า พิจารณาอนุมัติเงินกู้งวดใหม่จำนวน 7,500 ล้านยูโรให้กับรัฐบาลกรีซภายใต้โครงการช่วยกู้วิกฤติเศรษฐกิจกรีซรอบที่ 3 จากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

+++รอยเตอร์ รายงานอ้างหนังสือพิมพ์ไชนา เดลีของรัฐบาลจีนว่า บทบรรณาธิการของสื่อของทางรัฐบาลจีน วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯว่าที่ผ่านมาขัดขวางความพยายามของหลายฝ่ายในการการป้องกันภัยคุกคามต่อระบบไซเบอร์ทั่วโลก เป็นเหตุให้ไวรัสชื่อวอนนาครายติดคอมพิวเตอร์กว่า 3แสนเครื่องทั่วโลกในช่วง 2-3 วัน ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ(เอ็นเอสเอ)ควรจะถูกตำหนิสำหรับเหตุโจมตีทางไซเบอร์ดังกล่าว ซึ่งมุ่งจะโจมตีจุดอ่อนของระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของบริษัทไมโคซอฟท์ของสหรัฐฯ ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ในองค์กรต่างๆของจีนราว 30,000 แห่งติดไวรัสนับตั้งแต่วันเสาร์ที่แล้ว

+++รัฐบาลจีน เตรียมจะบังคับใช้กฏหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ฉบับหนึ่ง ซึ่งภาคธุรกิจของสหรัฐฯระบุว่าอาจจะกระทบต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทต่างชาติในประเทศจีน เนื่องจากเป็นกฎหมายควบคุมการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับท้องถิ่นที่เข้มงวดและมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างเคร่งครัด

แฟ้มภาพ