เบนซ์ เรซซิ่ง รายงานต่อศาลผัดที่7 ยืนยันต่อสู้ชั้นศาล ทนายความคาดสำนวนส่งอัยการฟ้อง 29 พ.ค.นี้

การรายงานตัวในคดีสมคบฟอกเงินใน เครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพานักค้ายาเสพติด ในเช้าวันนี้ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง พร้อมกับนายสิทธิโชค ตรีเนตร ทนายความ เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดาภิเษก เพื่อรายงานตัวต่อศาล ตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวระหว่างการฝากขัง ครั้งที่ 7  ภายหลังการรายงานตัวทนายความเปิดเผยว่า

เมื่อวานนายอัครกิตติ์ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาสนันสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด,รับเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด กระทำหรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษบทลงโทษ ซึ่งเป็นพฤติการณ์และข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาเดิมคือสมคบกันฟอกเงิน โดยอัตราโทษข้อหาใหม่นี้สูงเทียบกับตัวการ ส่วนหลักทรัพย์ในการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล คาดว่าจะต้องมีวงเงินที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมยืนยันว่านายอัครกิตติ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ประกอบกับก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนเรียกบุคคลใกล้ชิดของนายอัครกิตติ์ไปสอบปากคำกว่า10ปาก ซึ่งทุกคนยืนยันว่านายอัครกิตติ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด  และที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด ไม่มีเจตนาหลบหนีแต่อย่างใด ทั้งนี้ไม่มีอะไรจะต้องชี้แจ้งเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนแล้ว เพราะที่ผ่านมาได้ยื่นเอกสารต่างๆและชี้แจงไปหมดแล้ว 

โดยขณะนี้ ยังไม่ได้มีการปรึกษากับทีมทนายความของนางสาวณปภา ตันตระกูล หรือ แพท ณปภา ดาราสาวและ ภรรยาของอัครกิตติ์ ที่ถูกแจ้งข้อหาสมคบกันฟอกเงินด้วย เพราะเวลากระชั้นชิดเกินไป  แต่หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน ไปสู้ในชั้นศาลเช่นกัน ส่วนรายละเอียดในการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนั้นก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ที่จะยื่นคำร้องต่อศาล ว่ามีการแจ้งข้อหาขณะฝากขังผัด 6 ซึ่งเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้องภายในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้  และยืนยันว่าจะไม่ร้องขอความเป็นธรรมเพราะยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาลอยู่

ขณะที่นายอัครกิตติ์ ยืนยันว่าไม่ได้คิดจะหลบหนี ซึ่งที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่มาตลอด และหลังจากนี้ต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป