เจ้าหน้าที่ขนส่งทางบก เข้มงวด ตรวจรถตู้โดยสารสาธารณะไม่เกิน13ที่นั่ง ไม่พบผู้ทำผิดที่อนุสาวรีย์ชัยฯ

การตรวจความเรียบร้อยรถตู้สาธารณะเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเข้มงวด  ในช่วงเย็นวันนี้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกลงพื้นที่บริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพหลโยธิน ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกองพันทหารสื่อสารที่12รักษาพระองค์  นายชนินทร์  ไพรวัลย์ เจ้าพนักงานขนส่ง ชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก และในฐานะหัวหน้าชุดตรวจ กล่าวว่า หลังจากจากเมื่อวานนี้ กรมขนส่งทางบกเริ่มบังคับใช้กฎหมายให้รถตู้สาธารณะปรับลดเก้าอี้ผู้โดยสารออก ให้เหลือไม่เกิน 13 ที่นั่ง รวมคนขับด้วยเป็น14ที่นั่ง โดยจะต้องจัดวางรูปแบบที่นั่งแถวหลังสุดให้มีช่องทางเดิน ขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร  เพื่อเปิดช่องว่างให้ผู้โดยสารสามารถออกประตูด้านหลังจากภายในรถได้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน  หรือรถตู้สาธารณะคันไหนที่ไม่สามารถเปิดประตูหลัง จากด้านในได้  จะต้องมีค้อนไว้สำหรับทุบกระจกแทน หากพบผู้ฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจะเปรียบเทียบปรับ500บาททันที

ซึ่งวันนี้ไม่ได้ตรวจเฉพาะจำนวนที่นั่งของรถตู้สาธารณะเท่านั้น แต่ยังดูในเรื่องของการติดตั้งระบบGPSและการคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งด้วย รวมถึงดูความพร้อมของตัวรถและคนขับด้วย เช่น มีการแสดงตนระหว่างปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ แต่งกายสุภาพเรียบร้อยหรือไม่ ยางรถมีความพร้อมหรือไม่   หากตรวจพบว่ามีผู้กระทำผิดซ้ำซ้อนหลายครั้ง เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งจะลงโทษด้วยการไม่ออกใบเวลาเดินรถ ระงับหรือพักใช้ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ และใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ตามลำดับต่อไป  โดยการกำหนดมาตรการความปลอดภัยต่างๆนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารระหว่างการเดินทาง

โดยในวันนี้ยังตรวจสภาพจราจรบริเวณนี้ด้วย เพราะอยู่ในช่วงเปิดเทอม แต่จากการลงพื้นที่แล้วนั้น การจราจรเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา เนื่องจากก่อนหน้านี้กรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการรถตู้หมวด2หรือรถตู้ที่วิ่งระหว่างจังหวัด ย้ายเข้าไปอยู่ในสถานีขนส่ง3 แห่ง ประกอบด้วย สถานีขนส่งจตุจักร,สถานีขนส่งเอกมัย และ สถานีขนส่งปิ่นเกล้า จึงทำให้ปริมาณรถที่วิ่งในอนุเสารีย์ชัยสมรภูมิมีจำนวนลดลง

จากการลงพื้นที่ตรวจรถตู้สาธารณะบริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพหลโยธินในวันนี้ พบว่า ผู้ประกอบการและคนขับรถตู้สาธารณะให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายเป็นอย่างดี วันนี้จึงไม่มีผู้กระทำความผิด